วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

หุ่นสวย ผิวใส ทำอย่างไร?

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://plataolek-mc-pretty.blogspot.com/2010_10_01_archive.html


หุ่นสวย ผิวใส ทำอย่างไร?

หุ่นดี หุ่นสวย


หุ่นสวยกับผิวใสย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้วจริงไหมค่ะคุณผู้หญิง แต่จะทำอย่างไรล่ะจึงจะมีทั้งสองอย่างควบคู่กันเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเป็น ที่สะดุดตาของผู้ชายหรือคนรัก เรามีวิธีมาแนะนำคุณค่ะ แค่คุณยอมเสียเวลาเล็กน้อยหรือใช้ยามว่างหลังจากทำงานแล้วมาดูแลสุขภาพของ ตัวคุณเอง

หน้าท้องแบนใน 5 วินาที

สาวๆ หลายคนจะไม่มั่นใจหรือใส่เสื้อผ้ารัดรูปแล้วจะทำให้เราดูหุ่นไม่สวย เพราะไขมันที่หน้าท้องมากวนใจคุณ แต่ตอนนี้หายกังวลได้แล้วค่ะ แค่คุณยอมตื่นนอนตอนเช้าๆ แล้วนอนหงายเกร็งหน้าท้องไว้ 5 วินาที ทำซ้ำ 20 ครั้ง ทุกๆ วัน ประมาณ 2 สัปดาห์ หน้าท้องย้วยๆ ของคุณจะเริ่มกระชับขึ้น จนคุณรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง


ถูผิวหนังกระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่สำคัญส่วนหนึ่งในการขับถ่ายของเสีย หากเราถูผิวหนังเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองทั่วร่าง กาย อันเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องของเสียคั่งค้างอยู่ในร่างกายอย่างได้ผล จะทำให้ผิวมีเลือดฝาด ดูสวยขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลในการลดไขมันตามผิวหนังเพราะไขมันใต้ผิวหนังเกิดจากน้ำ เหลืองคั่งค้าง โปรตีน ไขมัน มาพอกพูนรวมกันอยู่

การถูผิวหนังทำได้ง่ายโดยใช้เวลาวันละ 5 นาทีก่อนอาบน้ำ มีอุปกรณ์การถูเป็นเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น รังบวบนุ่มๆ หรือแปรงที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เริ่มจากปลายมือถูขึ้นไปถึงหัวไหล่ ส่วนลำตัวถูในทิศทางลงไปที่ส่วนเอว ส่วนขาให้ถูในทิศทางขึ้นมาหาสะโพก ให้ทำจนทั่วตัว

เป็นไงคะ... เคล็ดลับหุ่นสวยผิวใสมีเลือดฝาดง่ายไหมค่ะ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็สามารถทำให้คุณสวยได้ แถมยังมีสุภาพที่ดีอีกด้วย

ที่มาจาก สสส.

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ใน ยาสีฟัน


คุณเคยกินยาสีฟันไหมครับ อืม.....หากคุณเคยกินยาสีฟัน ผมแนะนำว่า อย่าอ่านบทความต่อไปนี้จะดีกว่า
กว่าคุณจะผะอืดผะอม ผมไปเจออันดับหน้าสนใจมาว่าส่วนประกอบยาสีฟัน ส่วนใหญ่นั้นทำมาจากอะไร
และก็ได้พบว่าส่วนประกอบเกือบทั้งหมดนั้นล้วนเป็นสารเคมีที่ค่อนข้างจะอันตราย
บางชนิดก็เหลือเชื่อว่ามันอยู่ในยาสีฟันด้วย ล่ะนี้คือ 10 อันดับสิ่งที่เหลือเชื่อว่ามันอยู่ในยาสีฟันที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน


10.Formaldehyde
ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลีน สารไร้สีกลิ่นแรงใช้ทำยาฆ่าเชื้อและยากันเน่า
ที่เรามักรู้จักสารนี้ในการใช้สำหรับดองศพเพื่อไม่ให้ศพเน่าเปื่อย ใช้ฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อรา
และทำความสะอาดห้องคนป่วย โดยฟอร์มาลีนเป็นส่วนประกอบของยาสีฟัน
(นอกจากนี้ยังมี ยาบ้วนปาก สบู่ ครีมโกนหนวด) เนื่องจากมันมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียเล็กๆ
ในช่องปาก แต่ความเข้มข้นที่ต่ำมาก แต่กระนั้นอันตรายจากฟอร์มาลีนจากยาสีฟันก็ยังคงมีอยู่คือหากกินมากเกินไป
อาจทำให้ตับและไตพังและอาจถึงตายได้ โอ้น่าสนุก ลองดูไหม?


9.Detergent
สารทำให้เกิดฟอง หรือผงซักฟอก เป็นผงที่มีลักษณะเป็นผง เม็ดเล็กๆหรือเกล็ด อัดขึ้นรูป
กึ่งแข็งกึ่งเหลว แท่ง หรือลักษณะอื่น ผงซักฟอก เป็นสารซักล้างที่ผลิตขึ้นมาใช้แทนสบู่
ในมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสารลดแรงตึงเพื่อให้เกิดฟองช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากแต่สารบางชนิดอาจมีผลทำให้เยื่อบุปากเกิดอาการแพ้และหากคุณกลืนสารนี้มากเกินไปอาจ
มีผลต่อกระเพาะอาหาร ปัจจุบันยาสีฟันส่วนมากไม่ทำให้เกิดฟองมากเหมือนเมื่อก่อน
เนื่องจากมีการใช้สารลดความตึงผิวที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยขึ้น


8.Seaweed
สารคาราจีแนนที่อยู่ในยาสีฟันนั้นมาจากสาหร่ายทะเล สารนี้ทำให้ส่วนผสมนี้เกาะตัวกันข้นเหนียว
ทำให้เกิดความลื่นไหลและยืดขยายเป็นเจลเข้าปาก ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดนำสาหร่ายมาใส่ในยาสีฟัน
เพื่อคุณสมบัติต่างๆ เช่นสาหร่ายไดอะตอมซึ่งเป็นส่วนผสมของยาสีฟันช่วยขัดฟันให้ขาว สาหร่ายสไปรูลิน่าช่วยให้ฟันแข็งแรง


7.Peppermint Oil
น้ำมันสะระแหน่ได้มาจากการสกัดน้ำมันจากสาระแหน่โดยวิธีกลั่นด้วยไอน้ำ
โดยน้ำมันที่ได้จากการสกัดนี้ใช้อย่างกว้างขวางในอาหาร ยา เครื่องสำอาง
ซึ่งยาสีฟันนั้นก็มีการเติมน้ำมันสกัดนี้เพื่อทำให้ มีรสหวานทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีขึ้น
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกลิ่นหอมเย็น เมื่อสูดดมทำให้โล่งจมูกรู้สึกสดชื่น อีกครั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรค
ส่วนอันตรายจากน้ำมันสาระแหน่ก็คือทำให้ระคายเคืองผิวหนัง และชีพจรปั่นป่วนหากรับประทาน
ดังนั้นหลายยี่ห้อมักใส่ในปริมาณความเข้มข้นต่ำ


6.Paraffin
พาราฟิน หรือ เคโรซีน เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งกลั่นแยกออกจากน้ำมันดิบ
จุดหลอมเหลวประมาณ 47-64 องศาเซลเซียส จุดเดือดประมาณ 150-275 องศาเซลเซียส
ไม่ละลายในน้ำ สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และ มีหลายสถานะด้วยกัน เช่น แก๊ส ของเหลว ของแข็ง
โดยประโยชน์ของมันมีหลายอย่าง เช่น แบบก๊าซใช้ทำเชื้อเพลิง ของเหลวใช้เป็นยารักษาโรค
โดยสารนี้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนประกอบของยาสีฟันที่มีคุณสมบัติใช้ทำเทียนไข ช่วยในการเคลือบผิว
เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยขจัดคราบสกปรก โดยหากกลืนสารนี้ไป
อาจเกิดอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนและท้องผูกอย่างรุนแรง


5.Glycerine Glycol
คุณเคยได้ยินส่วนผสมนี้อยู่ในแปลงสีฟันหรือไม่ และรู้ไหมว่ากลีเซอรีนไกลคอลนั้นคืออะไร
มีคุณสมบัติอย่างไร กลีเซอรีนไกลคอลเป็นแอลกอฮอล์ที่มีคาร์บอน 3 ตัว
มีลักษณะเป็นสารอินทรีย์ที่เป็นน้ำเหนียวไร้สีและไร้กลิ่น เป็นส่วนประกอบของยาสีฟัน
(น้ำยาบ้วนปาก, การดูแลผิว, ผลิตภัณฑ์ครีมโกนหนวด, ดูแลเส้นผม, สบู่, น้ำมันหล่อลื่นของสงวน)
เพื่อไม่ให้แห้งมากเกินไปและช่วยให้เกิดการหล่อลื่น แม้ว่าสารนี้เป็นเพียงสารแต่งเติมที่ไม่มีอันตรายในยาสีฟัน
แต่มันทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เมื่อเรากลืนยาสีฟันเข้าไป


4.Chalk
ส่วนที่เป็นสีขาวของยาสีฟันมีส่วนผสมหลักทำจากผลชอล์กบดละเอียด(แคลเซียมคาร์บอเนต)
ที่ทำมาจาก exoskeletons ซึ่งผงชอล์กนั้นเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันมาช้านานแล้วในรูปแบบผง
(นอกจากนี้ยังมีผงอิฐ ผงถ่าน เกลือ) เนื่องจากผงชอล์กมีส่วนประกอบจากแคลเซียมและหินปูน
การสูดดมในระยะยาวจะทำให้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดการระคายเคือง หลอดลมอักเสบ



3.Titanium Dioxide
ส่วนสีขาวของยาสีฟันนั้นทำมาจากไททาเนียมไดออกไซด์(สารกันแดด)
ซึ่งสารนี้เป็นสารเก่าแก่ชนิดหนึ่งเท่าๆกับโลกของเรา และเป็นหนึ่งใน 50ชนิด
ของสารที่ผลิตมากที่สุดทั่วโลก ลักษณะโดยทั่วไปมีสีขาว นอกเหนือจากใช้เป็นส่วนประกอบของยาสีฟันแล้ว
มันยังใช้งานได้หลากหลายเนื่องจากมันไม่มีกลิ่นและมีความสามารถในการดูดซับ
ทำให้มีหลายผลิตภัณฑ์ใช้สารนี้เป็นส่วนผสม เช่น สีทาบ้านไปถึงอาหารและเครื่องสำอาง
และสารนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสารสีที่ปลอดภัย ไม่ก่อมะเร็ง ไม่ก่อให้เกิดกลายพันธุ์
ไม่เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ไม่มีพิษ หากแต่เราก็ไม่ไว้ใจกับสารนี้อยู่ดี


2.Saccharin
ซัคคาริน สารให้ความหวาน หรือขัณฑสกร นั่นแหละครับ ที่บ้านเราออกมาห้ามโน้นห้ามนี้ว่าอย่าใส่ในขนมหรืออาหาร
แต่มันดันเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันเพื่อให้เกิดความหวาน เป็นสารเคมีให้ความหวาน
ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยบังเอิญ ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1879 ปัจจุบันสถานะของขัณฑสกรถือว่าปลอดภัย
แต่ผู้บริโภคหลายกลุ่มยังไม่มั่นใจนัก เพราะอดีตขัณฑสกรถูกงดใช้ไปหลายครั้ง
(อเมริกาพยายามห้ามใช้สารนี้เมื่อปี 1972) นอกจากนี้ขัณฑสกรยังมีรสชาติขมในคอหลังจากกลืนแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณที่สูง


1.Menthol
เวลาเราแปรงฟันแล้วรู้สึกเย็นในช่องปากก็เนื่องจากยาสีฟันมีเมนทอส(การบูร)มีส่วนผสมอยู่
เป็นมีลักษณะเป็นผลึกใส ไม่มีสี รูปเข็ม ได้จากการสกัดน้ำมันหอมระเหยของต้นไม้บางชนิดเช่น
Mentha piperita และ Mentha arvensis หรืออาจได้จากการสังเคราะห์
นิยมใช้เป็นสารแต่งกลิ่นรสในยารับประทาน ยาอม ใช้บรรเทาอาการคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวก
ในยาสูดดมต่างๆ ในตำรับยาขี้ผึ้ง ครีม หรือเจลใช้ดับกลิ่น หรือทำให้รู้สึกเย็นสบาย
หากกลืนหรือกินเข้าไปปริมาณเล็กน้อยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้ากลืนหรือกินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นอันตรายได้





แปลและเพิ่มเนื้อหาจาก
http://www.toptenz.net/top-10-toothpaste-ingredients.php
“Camm yเรียบเรียง” และ “สามารถก็อปไปที่อื่นได้แต่ห้ามไปลงเว็บไซต์ Dek- D

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขนตาสวย เหมือนตุ๊กตา

ต่อ ไป เราจะเลิกอิจฉาขนตาที่สวยเรียงเส้นของตุ๊กตาแสนสวยกันได้แล้ว เพราะเราก็มีขนตาสวยแบบนั้นได้เหมือนกัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่าทริปคืออะไร
1. แปลงขนตา
เพราะถ้าขนตาไม่เรียงตรง จะทำให้ขนตา สวยเหมือนตุ๊กตาไม่ได้ ดังนั้นควรแปรงขน ตาก่อน

2. ปัดเบสมาสคาร่าตรงโคนขนตา
ดัดขนตาแล้วใช้เบสมาสคาร่าที่ทำให้ขน ตางอนปัดเฉพาะโคนขนตา ยกขนตาขึ้นจะได้งอน

3. เพิ่มวอลลุ่มและแยกเส้นขนตา
ปัดมาสคาร่าเพิ่มวอลลุ่ม และปัดมาสคาร่า แบบแยกเส้นขนตาด้วย ปัดจากโคนยกขึ้นด้านบน

4. แปรงขนตา
แปรงขนตา เพื่อให้ขนตาที่ติดกันหลุด ออกจากกัน และไม่ให้มาสคาร่าดูหนาเกินไป

5. แก้ปัญหาขนตาติดกันด้วยที่ดัดขนตาไฟฟ้า
ดัดขนตาด้วยที่ดัดขนตาไฟฟ้า ไม่ให้ขนตาติดกัน และทำให้ขนตางอนสวยยิ่งขึ้น

6. ใช้แหนบจัดเรียงขนตา
ใช้แหนบคีบจัดปลายขนตาเพื่อให้ขนตา ไม่ติดกัน แต่ระวังอย่าให้โดนตาล่ะ


ปลอมขนตากับขนตาปลอม

หลาย ครั้งหลายคราที่พวก เราได้เห็นบรรดานางแบบตามหน้าแม็กกาซีน หรือที่กำลังเดินแบบอยู่บนแคตวอล์ก พวกเธอไม่เพียงแต่จะใส่ชุดสวยมา โพสท่าอวดโฉม หากแต่ยังมีขนตายาวงอนงามที่พร้อมเป็นหน่วยสนับสนุนให้
ดวงตาดูสวยเด่นไม่แพ้สเต็ปเมคอัพอื่น ๆ อีกด้วยละคะ วันนี้เราก็เลยมีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับขนตาปลอมมาฝาก

ตรวจ เช็กขนตาปลอม
ของคุณก่อนว่ามีขนาดความกว้างยาวพอดีกับแนวขนตาของคุณหรือยัง
ถ้ายังดูยาวเกินความต้องการละก็ ผู้เขียนขอแนะนำให้มองหากรรไกรเล็กๆ
มาเล็มออก แต่ว่าให้เล็มเฉพาะด้านใน (หัวตา) เท่านั้นนะคะ นั่นเป็นเพราะขนตาปลอมบางรุ่นตั้งใจจะมีลูกเล่นปล่อยยาวหรือ
กระดกปลายไว้ที่บริเวณหายตา

ขนตาปลอม

ไม่มีแต่ชนิดที่เป็นแผงขนตาเท่านั้นหรอกนะคะ แต่ยังมีรูปแบบที่เป็นช่อขนตา สำหรับไว้ติดแซมให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติไปกับขนตาจริง

หยอดกาวที่โคนขนตาปลอม รอให้กาวกระจายทั่วแล้วใช้แหนบหนีบขนตาปลอมไปทาบติดที่แนวขนตา หลังจากติดทาบขนตาปลอมลงบนแนวขนตาเรียบร้อยแล้ว ขอแนะนำว่าให้คุณหลับตาอยู่อย่างนั้นสักแป๊บหนึ่ง
(นับไป 30 วินาที) รอให้กาวค่อยๆ ซึมอย่างถ้วนทั่ว จากนั้นใช้ปลายนิ้วกดเบาๆ ที่แนวขนตาจากด้านในสู่ด้านนอก เพื่อให้มั่นใจว่าขนตาปลอมติดแน่นดีแล้ว คุณสามารถใช้มาสคาร่าปัดทับหรือดัดขนตาเพิ่มได้อีก
หลังจากที่ติดขนตาปลอมลงไปแล้ว แต่ในกรณีนี้ขอให้เจาะจง
เฉพาะขนตาปลอมแบบธรรมชาติเท่านั้นนะคะ
ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับขนตาปลอมที่มีดีไซน์เก๋จัด เช่น พวกขนตาปลอมขนนก ขนตาปลอมประดับเพชร เพราะจะทำให้ขนตาปลอมล้ำดีไซน์ของคุณ
เกิดความเสียหายได้อย่างแน่นอน ดึงขนตาปลอมออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ควรรีบล้างทำความสะอาดให้ทันที อย่าปล่อยข้ามวันข้ามคืนเชียว มิเช่นนั้นกาวที่ติดอยู่กับขนตาและเชื้อแบคทีเรียในอากาศจะเกิดการสั่งสม ผลก็คือสร้างโอกาสให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองขึ้นได้
ส่วนวิธีทำความสะอาดก็ทำได้แสนง่าย เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท
อายส์เมคอัพรีมูฟเวอร์ หรือคลีนซิ่งออยล์มาเช็ดล้างทำความสะอาด

ที่ มา : www.pop.co.th

วิธี กรีด อายไลเนอร์

การ เขียนอายไลเนอร์นั้น หากเป็นการแต่งหน้าธรรมดา ก็เขียนแต่เพียงขอบตาบนก็พอ เพื่อให้ขอบตาชัดขึ้น ทำให้ดูตากลมโตขี้นค่ะ
  • ก่อนอื่นหลับตาข้างที่ต้อง การจะเขียน
  • สำหรับขอบตาบนค่อย ๆ ลากเส้นอายไลเนอร์จากหัวตา ไม่ต้องติดหัวตามากนะคะ เว้นระยะไว้นิดนึง หรือ ลากมาจากเส้นขอบขนตา มายังหางตา และเขียนให้ติดขนตาให้มากทีสุด
  • เมื่อถึงหางตาก็ตวัดอาย ไลเนอร์ขั้นนิดนึง เพื่อให้หางตาดูสวยขึ้น
  • หากมีการเลอะของอายไลเนอร์ ให้ใช้คัดเติลบัชเช็ดอายไลเนอร์ที่เลอะออกได้ค่ะ แต่ต้องเร็วหน่อยนะคะ ก่อนที่อายไลเนอร์จะแห้ง
  • เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีดวงตาคู่สวยได้แล้วค่ะ

กรีดอาย ไลเนอร์แบบไหนดี


สำหรับ สาว ๆ หลาย ๆ คน คงจะมีปัญหาการกรีดอายไลเนอร์ว่าจะกรีดแบบไหนดี เพราะบางคนอาจจะเบื่อกับการกรีดอายไลเนอร์แบบธรรมดา วันนี้เลยเอารูปแบบการแต่งตามาแนะนำกันค่ะ
  • อยาก ให้ดวงตาสวยซึ้ง...ลอง กรีดอายไลเนอร์เส้นคม ๆ แล้วตวัดขางตาขึ้นเล็กน้อย แล้วปัดมาสคาร่าที่เพิ่มความยาวของขนตาและความหนาดูซิคะ
  • อยากให้ตาดูโฉบเฉี่ยว...ต้อง นี่เลยค่ะ ลากอายไลเนอร์ที่หางตาเฉียงขึ้น และกรีดอายไลเนอร์ให้หนาขึ้น หรืออาจใช้อายไลเนอร์สีสันสดใสเพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยวขึ้นก็ได้ค่ะ
  • หากคุณอยากให้ดวงตาดูคมเข้ม ก็ลองกรีดอายไลเนอร์เส้นหนาขึ้นดูซิคะ จะช่วยให้ดวงตาคุณดูเด่นและดูคมเข้มขึ้นได้
  • สำหรับขอบตาล่างนั้น อาจเขียนมาซักครึ่งตาเพื่อให้ตาดูสวยขึ้นได้ค่ะ

ทริปเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับสาว ๆ นะคะ สำหรับสาว ๆ ที่มีตาโตอยู่แล้วนั้น กรีดเพียงบาง ๆ ก็พอค่ะ ตาจะดูสวยซึ้งขึ้น แต่สาว ๆ ที่มีดวงดาเล็ก หรือสาวหมวยก็เขียนเป็นเส้นหนาขึ้นได้ค่ะ เพื่อให้ดวงตาดูโตขึ้น

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ติดขนตาปลอมแบบมือโปร



ติดขนตาปลอมแบบมือโปร (คู่หูเดินทาง)



ในเมื่อการปัดมาสคาร่าไม่ได้ช่วยให้ขนตาของคุณงอนยาวได้อย่างหนำใจ การติดขนตาปลอมนั้นก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับคุณสาว ๆ แต่มีเทคนิคที่อยากแนะนำ ดังนี้
1. ขนตาปลอมยาวรับรูปตา

ขนตาปลอมต้องไม่ยาวจนเกินไป และควรมีการสลับสั้นบ้างยาวบ้าง ไม่ใช่ยาวตรงเท่ากันหมด เพราะจะดูหลอกตา อาจใช้กรรไกรช่วยตัดให้ได้ระดับความยาวที่พอดีกับรูปตา เลือกขนตาปลอมที่ทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นดี ไม่แข็งจนสร้างความระคายเคืองให้ดวงตา

2. เลือกกาวที่มีคุณภาพ

กาวที่ใช้ควรมีสีเข้มอย่างสีเทาและดำ จะได้เนียนกลืนไปกับสีขนตา ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ติดเป็นคราบขาวเลอะเทอะ

วิธีการติดขนตาปลอม

เริ่มจากแต้มกาวที่คอตต้อนบัดแล้วนำมาทาที่โคนขนตาปลอม ทิ้งไว้สัก 30 วินาที จากนั้นติดขนตาปลอมให้ชิดกับขอบขนตาด้านในให้มากที่สุด โดยใช้ปลายของด้ามแปรงแต่งหน้าค่อย ๆ กดจนชิดขอบตา (ไม่ใช่ติดทับลงไปบนเปลือกตานะคะ) แล้วจะปัดมาสคาราทับหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าปัดมาสคาราทับลงไปแล้ว ขนตาปลอมชิ้นนั้นก็จะนำกลับมาใช้อีกไม่ได้ เพราะมาสคาร่าจะไปจับตัวเป็นก้อนติดอยู่บนขนตาปลอมนั้น

วิธีแกะขนตาปลอมออก

ให้ใช้แหนบหรือนิ้วจับที่โคนขนตาปลอมแล้วค่อย ๆ ดึงเบา ๆ ออก อย่ากระชากกระตุกจนหลุดออกมาทีเดียว เพราะอาจทำให้ขนตาจริงหลุดออกมาด้วย

การนวดช่วย เพิ่มขนาดหน้าอก



ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางตักครีมประมาณข้อนิ้วของเราค่ะ (ถ้าเป็นเจลใช้นิ้วนาง ตักนิ้วเดียวก็พอ) แล้วถูมือไปมาให้ครีมมีอุณหภูมิเท่าร่างกายเรา (จะได้ซึมเข้าผิวง่ายขึ้น) ทาครีมด้วยการใช้มือขวาทาครีมรอบหน้าอกซ้าย โดยเว้นหัวนมไว้

เริ่มนวดหน้าอกก่อน โดยใช้มือขวาวางไว้ด้านบนหน้าอกซ้ายแล้วลากจากรักแร้เข้ามากลางหน้าอก จากนั้นวนมือลงด้านล่างแล้ววกกลับไปที่รักแร้อีกครั้ง ประมาณ 15 ครั้งต่อการนวดหนึ่งข้าง พยายามช้อนเต้านมขึ้นทุกครั้งที่มือวนขึ้น และพยายามโกยเนื้อส่วนใต้รักแร้กลับมาที่หน้าอกด้วยเพื่อให้ได้หน้าอกที่มี รูปทรงสวยงาม จากนั้นอย่าเพิ่งเปลี่ยนท่าค่ะ เอามือซ้ายที่มีครีมเหลืออยู่ทารอบหน้าอกขวาแบบเดียวกันแล้วนวดหน้าอกวนจาก รักแร้เข้าระหว่างอกเช่นกัน จำนวนครั้งควรจะเท่าๆ กันเพื่อให้หน้าอกสองข้างขยายเพิ่มขึ้นเท่าๆ กัน



เริ่มท่าต่อไป คือวางมือขวาบนหน้าอกซ้ายบริเวณเหนือหัวนมแล้วลูบขึ้นประมาณ 15 ครั้ง จากนั้นวางมือซ้ายบนหน้าอกขวาแล้วลูบขึ้น ให้ได้ละ 15 ครั้ง เช่นกัน



ข้อแนะนำในการนวดเพิ่มขนาดหน้าอก
พยายามนวดหน้าอก 2 ข้าง ในจำนวนครั้งที่เท่าๆ กันเพื่อให้ได้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นเท่าๆ กัน


แต่ กรณีที่หน้าอกสองข้างไม่เท่ากันให้นวดหน้าอกข้างที่เล็กมากกว่าก่อน บางคนอาจใช้วิธีนวดหน้าอกข้างเล็กข้างเดียวจนกว่าหน้าอกข้างนั้นจะใหญ่ขึ้น จนเท่าอีกข้างก่อน แล้วค่อยนวดไปพร้อมๆ กันก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ

ไม่ควรนวดหน้าอกรุนแรง ออกแรงนวดพอประมาณจะได้ผลดีกว่า


ระหว่างนวดหน้าอก พยายามไม่ให้ครีม โดนหัวนมถ้าโดนให้เช็ดออก


นวดแล้วไม่ควรรีบใส่บราควรรอให้ผิวซึมซับครีมให้หมดก่อน


เพื่อให้ได้ผล 100% ควรนวดหน้าอกสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผลว่าหน้าอกมีขนาดเพิ่มขึ้น


ไม่ควรใช้ครีมหรือเจลเพิ่มขนาดหน้าอกปนกับบอดี้โลชั่นอื่นๆ เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้


ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการดูแลหน้าอกนะคะ เราก็จะได้ขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้นอย่างได้ผลและปลอดภัย





ที่มาจาก http://beauty.vwander.com


รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารขนาด 20 แคปซูล ราคา 140 บาท
อยากทราบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกวาวเครือขาวของกิฟฟารีนสามารถเพิ่มขนาดหน้าอกได้หรือไม่

ตอบ ถ้าตอบสั้นๆ ตอบได้ว่า จริงๆครับ



ถ้า คุณถาม ต่อว่า ถ้าเพิ่มขนาดหน้าอกให้ขึ้น ได้แล้ว จะเพิ่มขนาดหน้าอกได้ใหญ่ขนาดไหน และ ถ้ารับประทานต่อไป จะเพิ่มขนาดไปเรื่อยๆหรือไม่?



ตอบ….จะเพิมขนาดหน้าอกของคุณไปเรื่อยๆครับหน้าอกใหญ่ขึ้นแค่ไหน? ใหญ่มากครับ มากแค่ไหน?



ใหญ่ มาก มาก มาก ครับ



ถาม: ถ้าพอใจในขนาดของหน้าอกแล้วและไม่ต้องการให้ขนาดใหญ่ไปกว่านี้ ทำอย่างไร?



ตอบ….หยุดรับประทานครับ



ถาม ถ้าหยุดรับประทานแล้วขนาดหน้าอกจะค่อยๆเล็กลงหรือไม่?



ตอบ เล็กลงครับ จะค่อยๆเล็กลง หลังจากหยุดรับประทานไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์





ข้อควรรู้



กาว เคลือขาว ของไทย ใน ตปท มีชื่อเสียงไม่แพ้โสมฟ้าเกาหลี ซึ่งถ้าเอ่ยถึงกาวเคลือขาวที่คุณภาพดีที่สุดในโลก ต้องกาวเคลือขาวของประเทศไทยครับ และ สรรพคุณกาวเครื่อ มีมากมายครับ คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้เมื่อสนใจจริงๆอีกครับ



ข้อควรระวัง ก่อนการรับประทาน กาวเครือขาว ผู้ต้องการรับประทาน จะต้อง ทำการตรวจ สุขภาพ เสียก่อนครับ



ตรวจอะไรบ้าง >>>ตรวจ การทำงานของตับ มดลูก ตรวจหาโรคเต้านม ครับ



การรับประทานกาวเครือควรหยุดรับประทานในช่วง 7 วันสุดท้ายของแต่ละเดือน เหมือนกับการทานยาคุม เพื่อให้มดลูกได้พักและมีประจำเดือนตามปกติ สำหรับคนที่ปวดประจำเดือนบ่อยๆไม่ควรรับประทานครับ



การรับประทานไม่ควรรับประทานเกิน 50 มก ต่อวันครับ



กวาวเครือเป็นสมุนไพรคุณภาพของโลก มีข้อควรระวังแค่นี้เองจร้า


รู้จักอาการปวดประจำเดือน


ปวดประจำเดือน (หมอชาวบ้าน)

ปวดประจำเดือน หมายถึง อาการปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือน ซึ่งมักจะเป็นประจำอยู่ทุกเดือน ส่วนใหญ่จะปวดไม่มากและสามารถทำงานได้ตามปกติ ส่วนน้อยที่อาการรุนแรงจนต้องพักงาน ในรายที่ปวดรุนแรงขึ้นทุกเดือน หรือเริ่มปวดครั้งแรกหลังอายุ 35 ปี ก็อาจมีความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ


ชื่อภาษาไทย : ปวดประจำเดือน

ชื่อภาษาอังกฤษ : Dysmenorrhea

สาเหตุ

ปวดประจำเดือนแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่

1.ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ (primary dysmenorrhea) จะ พบในเด็กสาว ส่วนมากจะมีอาการตั้งแต่มีประจำเดือนครั้งแรก หรือไม่ก็เกิดขึ้นภายใน 3 ปี หลังมีประจำเดือนครั้งแรก จะมีอาการมากที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้อาการจะค่อย ๆ ลดลงบางรายอาจหายปวดหลังแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมีบุตรแล้ว ส่วนน้อยที่ยังมีอาการตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน

ผู้ป่วยจะไม่พบว่ามีความผิดปกติของมดลูกและรังไข่แต่อย่างใด ปัจจุบันเชื่อว่า มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างมีประจำเดือน และมีการหลั่งสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ออกมามากผิดปกติซึ่งกระตุ้นให้มดลูกมีการบิดเกร็งตัว เกิดอาการปวดประจำเดือน

2.ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ (Secondary dysmenorrhea) มักจะมีอาการปวดครั้งแรก เมื่ออายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป โดยก่อนหน้านี้จะไม่เคยมีอาการปวดประจำเดือนมาก่อน

มักตรวจพบว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ เช่น เยื่อบุมดลูกต่างที่ (endometriosis) ซึ่งมักทำให้มีบุตรยาก เนื้องอกมดลูก ปีกมดลูกอักเสบเรื้อรังมดลูกย้อยไปทางด้านหลังมาก

เชื่อ ว่าอารมณ์มีส่วนเสริมความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนทั้ง 2 ชนิด เช่น พบว่าผู้มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย หรือมีความเครียดจะมีอาการปวดรุนแรงมากกว่าผู้ที่มีอารมณ์ดี

อาการ

จะ เริ่มมีอาการก่อนมีประจำเดือนไม่กี่ชั่วโมง และเป็นอยู่ตลอดช่วง 2-3 วันแรกของประจำเดือน โดยมีอาการปวดบิดเป็นพัก ๆ ที่บริเวณท้องน้อย บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ใจคอ หงุดหงิดร่วมด้วย

ถ้าปวดรุนแรงอาจมีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น มือ เท้าเย็นได้

การแยกโรค

ผู้หญิงที่มีอาการปวดท้องน้อย อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่บังเอิญมาเกิดอาการช่วงมีประจำเดือนก็ได้ เช่น

ไส้ติ่งอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวา ติดต่อกันนานกว่า 6 ชั่วโมง มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย เดินกระเทือนถูกหรือกดถูกบริเวณนั้นจะมีอาการเจ็บปวด (ซึ่งอาการนี้ จะไม่พบในอาการปวดประจำเดือน)

ปีกมดลูกอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อย ร่วมกับมีอาการไข้สูง อาจมีอาการตกขาวร่วมด้วย (อาการปวดประจำเดือน จะไม่มีไข้)

นิ่วท่อไต ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบิดเกร็งตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง และมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอดข้างเดียวกัน (ไม่มีไข้ และกดถูกไม่เจ็บแบบเดียวกับอาการปวดประจำเดือน)

ผู้ที่เคยมีอาการปวดประจำเดือนมาก่อน หากมีอาการปวดท้องน้อยที่มีลักษณะที่ไม่เหมือนที่เคยเป็น เช่น ปวดรุนแรงหรือติดต่อกันนานกว่าปกติ กดถูกหรือกระเทือนถูกรู้สึกเจ็บ มีไข้ขึ้นหรือมีอาการตกขาวร่วมด้วย ก็ควรปรึกษาแพทย์เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือน ซึ่งเป็นอยู่ประจำทุกเดือน โดยไม่มีไข้ กดถูกไม่เจ็บ

ในกรณีที่สงสัยว่า เป็นปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น แพทย์อาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ อัลตราซาวนต์ ใช้กล้องส่องตรวจช่องท้อง เป็นต้น

การดูแลตนเอง

1.นอนพัก ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบ

2.กินยาแก้ปวด-พาราเซตามอล หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน) ครั้งละ 1 เม็ด ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง

3.ควร ปรึกษาแพทย์ ถ้าปวดรุนแรง หรือกินยาแก้ปวดไม่ทุเลา หรือกดถูกเจ็บ มีไข้ ตกขาว มีประจำเดือนออกมากกว่าปกติ หรือหลังแต่งงานแล้วยังมีอาการปวดประจำเดือนและมีบุตรยาก หรือสงสัยว่าเกิดจากสาเหตุอื่น

การรักษา

กรณี ที่เป็นปวดประจำเดือนปฐมภูมิ แพทย์จะให้ยาบรรเทาปวด ถ้ามีอาการปวดบิดเกร็งมาก แพทย์อาจให้ยาต้านการบิดเกร็ง (แอนติสปาสโมติก) เช่น ไฮออสซีน (hyoscine)

ราย ที่ปวดประจำเดือนรุนแรงเป็นประจำ หากตรวจแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ (ไม่ใช่ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ) แพทย์อาจให้ผู้ป่วยกินยาเม็ดคุมกำเนิด (กินแบบเดียวกับการใช้คุมกำเนิด คือวันละ 1 เม็ดทุกคืน เพื่อไม่ให้มีการตกไข่ จะช่วยไม่ให้ปวดได้ระยะหนึ่ง อาจให้ติดต่อกันนาน 3-4 เดือน แล้วลองหยุดยา ถ้าหากมีอาการกำเริบใหม่ ก็ควรให้กินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง จนกว่าเมื่อหยุดยาแล้ว อาการปวดประจำเดือนทุเลาไป

ในรายที่ตรวจพบมีสาเหตุผิดปกติ (เป็นปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ) แพทย์ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ เช่น ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ส่วน ในรายที่เกิดจากเยื่อบุมดลูกต่างที่อาจทำให้มีบุตรยาก หรือในรายที่เกิดจากเนื้องอกมดลูกอาจทำให้ตกเลือดมากจนเกิดภาวะซีด หรือก้อนโตมากอาจกดทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้

การดำเนินโรค

ในรายที่เป็นปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ มักจะทุเลาเมื่ออายุมากกว่า 25 ปี หรือหลังแต่งงานหรือมีบุตรแล้ว

ใน รายที่เป็นปวดประจำเดือนทุติยภูมิ ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาการปวดมักจะเป็นรุนแรงขึ้นทุกเดือน และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ถ้าได้รับการรักษาอาการปวดประจำเดือนก็จะหายไปได้

ความชุก

พบได้ประมาณร้อยละ 70 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์

ไม่มีความคิดเห็น: