วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

น้ำผักปั่น พลังเอนไซม์

โดย ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์ (แพทย์ทางเลือก และนักธรรมชาติบำบัดแบบองค์รวม)

จากเว็บไซต์ http://friutenzyme.blogspot.com/2009/08/blog-post_2673.html

เคล็ดไม่ลับในการดูแลสุขภาพ

น้ำผักปั่นช่วยฟื้นฟู การทำงานของร่างกาย 5 ระบบ
1. ระบบดูดซึม
2. ระบบทางเดินหายใจ
3. ระบบหมุนเวียนโลหิต
4. ระบบภูมิคุ้มกัน
5. ระบบต่อมไร้ท่อ

ดื่มสด ๆ เป็นประจำทุกวัน ต้านโรค เพิ่มพลัง เพื่มสมรรถภาพทางเพศ ลดไขมันส่วนเกิน ผิวสวย หน้าใส ดูอ่อนวัย ดีกับผู้ป่วยทุกโรค

คุณสมบัติเด่น

  • ในน้ำผักมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ที่มีคลอโรฟิลด์สารสีเขียวในพืชมีวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก โปรแตสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส จะเกิดการแลกเปลี่ยนการใช้สารอาหารได้สูงสุด ณ. จุดที่ร่างกายสามารถนำของเสียทิ้งได้หมด และทำให้ร่างกายสร้างพลังงานในแต่ละเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ซึ่งส่งผลให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่ตายในแต่ละวันได้ เต็มที่ลักษณะนี้คือ ปัจจัยสูงสุดที่ร่างกายจะไม่เกิดความอ่อนแอทุกอวัยวะเมื่อไปอยู่ในประเทศไหน ก็ตาม ถ้าได้สัดส่วนของสารอาหารออกมาเป็นกรดอ่อน มีคลอโรฟิลล์ มีวิตามินเอ วิตามินซี นี่คือที่มาของการทำให้ร่างกายสามารถมีอาหารได้เต็มที่ในแต่ละเซลล์
  • ถ้าทุกเซลล์แข็งแรงไม่มีเซลล์ตายก็จะไม่เก่ ถ้า pH เป็นกรดเกินไปการใช้แคลเซียมก็จะยาก กรดอ่อนทำให้เกิดการใช้ไขมัน ไขมันถูกย่อยสลายได้เร็ว ถ้าเป็นด่างเกินไปการย่อยสลายไขมันก็ทำได้น้อย
  • ไขมันคือของแข็งที่มีปริมาณถึง 60% ของของแข็งทั้งหมดในร่างกายเป็นตัวที่จะไปเปลี่ยนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงเป็นน้ำ เมือกที่ไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายน้ำไขข้อเป็นไขกระดูกเป็นกล้ามเนื้อ เป็นกระดูกเส้นเอ็นไขมันหล่อเลี้ยงน้ำเมือกที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมเป็นลำดับ pH ของน้ำผักที่เหมาะสมกับคนไทยอยู่ที่ pH 4 - 6
  • คนอ้วนมากให้น้ำผักที่ pH 4 เลยเนื่องจากคนอ้วนมีไขมันค้างอยู่ในลำไส้มาก น้ำผักจะไปเปลี่ยนไขมันเป็นโคเลสเตอรอล ไปเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ และเป็นกลีเซอร์ไรด์ในที่สุด ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้การดื่มน้ำผัก คือการเติมสารอาหารประเภทวิตามิน เกลือแร่จำเป็น และที่สำคัญที่สุด คือ คลอโรฟิลล์ เมื่อดื่มแล้วถูกดูดซึมไปฟื้นฟูตับทำให้น้ำตับและน้ำตับอ่อนหลั่งการย่อย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และวิตามินมีมากขึ้น
  • ขณะที่น้ำผักไปย่อยไขมันส่วนที่เก่าส่วนหนึ่งแล้ว เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานดังนั้น ร่างกายก็ได้พลังงานมาสนับสนุนให้อวัยวะทำงานได้มากกว่าเดิม น้ำผัก จึงช่วยล้างสิ่งปฏิกูลในร่างกายตลอดจนสารพิษต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
  • ซึ่งปรากฏการที่สังเกตุได้คือ ลดอาการปวดต่าง ๆ จากอาการท้องเสียหรือมีของเสียค้างอยู่ในระบบเลือดมาก จนปวดตามกล้ามเนื้อ อาการปวดหลัง ดังกล่าวจะลดลง ลดอาการปวดศรีษะ ลดไข้ ลดความอ่อนเพลีย ลดอาการนอนหลับยาก ลดอาการนอนกรน
  • ซึ่งอาหารที่ดีขึ้นคือ ขบวนการที่ร่างกายชะล้างของเสียออกได้ดีขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ควรเก็บกด ด้วยการใช้ยาระงับปวด ซึ่งเป็นการไปหยุดความสามารถในการชะล้างของร่างกายทำให้เกิดสารพิษมากขึ้นใน ทุกระบบของร่างกายและแพร่กระจายสะสมจนก่อเกิดเซลล์มะเร็ง
  • การกินน้ำผักก่อนอาหารเป็นการเตรียมร่างกาย ในการย่อยสารอาหารที่เรากินลงไปได้ดีกว่าเดิมนั่นคือ เกิดสภาวะดีกับร่างกายทั้งระบบ
สรุปน้ำผักปั่นทำหน้าที่ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน

1. ให้สารอาหารที่ร่างกายนำไปฟื้นฟูตับกับตับอ่อน

2. กระตุ้นให้ร่างกายพร้อมในการย่อยไขมันที่เหลือค้างอยู่เปลี่ยนรูปไปเป็น พลังงานทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมที่จะย่อยสารอาหารที่รับประทานเข้าไปในมื้อ ต่อไป

ส่วนประกอบสำคัญ
  1. ผักกาดหอม 2 ใบ ช่วยฟื้นฟูเซลล์โดยเฉพาะระบบประสาทและเซลล์ในปอด ช่วยชะล้างของเสียในระบบเลือดทำให้ร่างกายมีความสามารถใช้แคลเซียมได้อย่าง มีประสิทธิภาพช่วยลดอาการเจ็บปวดของระบบข้อเสื่อมต่าง ๆ
  2. มะเขือเทศ (ท้อหรือสีดา)1-2 ลูก ช่วยทำให้เม็ดเลือดแดง แข็งแรงช่วยทำให้ผิวพรรณดี เพิ่มภูมิต้านทานมีสารช่วยย่อยอาหารทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานเป็นปกติ
  3. หอมใหญ่ 1/4 ลูก ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
  4. เนื้อเสาวรสสดหรือน้ำมะนาว 1 - 2 ลูก ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน
  5. คื่นฉ่าย 2 ก้าน ลดความดันโลหิต
  6. แอปเปิ้ล หรือกล้วยน้ำว้าสุกงอม 1 ลูก (หรือผลไม้ อื่น ๆ ให้เลือกใส่เพิ่มได้ เช่น ชมพู่ องุ่น สาลี่ ส้ม ส้มโอ ลองกอง สับปะรด เชอร์รี่ อื่น ๆ) ช่วยเสริมระบบขับถ่ายของเสีย
  7. น้ำผึ้ง ความชื้นต่ำ 2 - 4 ช้อนโต๊ะ (ห้ามใช้น้ำผึ้งค้ัางหลายปีหรือน้ำเชื่อม) ช่วยบำรุงผิวพรรณฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพเป็นเบาหวานก็สามารถทานได้)
  8. เอนไซม์ (Multi fruit Enzyme) 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ช่วยปรับสมดุล ช่วยย่อย ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ให้เปลี่ยนรูปเป็นพลังงาน ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยเปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารอาหาร
  9. น้ำสะอาด (น้ำดื่ม ไม่แช่เย็น 2 - 4 แก้ว ทยอยใส่โถเวลาปั่น (ขนาด 1.5 ลิตร)
ปั่นรวมกันให้ละเอียดไม่แยกกากเม็ดเสาวรสมีสารอาหารบำรุงสมองกินได้

การดื่มเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

  • ทยอยดื่มทันทีที่ปั่นเสร็จ ครั้งละ 1 ลิตร 3 ครั้งต่อวัน
  • ควรดื่มทุกคน ทุกวัน ทุกวัย เวลาที่ดีที่สุดคือก่อนอาหารเช้า
  • หญิงตั้งครรภ์ควรดื่มเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันคลอดง่าย ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารในการเจริญเติบโตจากเลือดแม่ ทำให้แข็งแรงทั้งแม่และทารก
ขอแนะนำให้ใช้เอนไซม์แช่ผัก

ก่อนล้างควรเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ ล้างน้ำให้สะอาดทั้งผลไม้ด้วย สำหรับผักนำไปแช่เอนไซม์ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 2ลิตร แช่นาน 15 -30 นาที
***สำหรับผลไม้แช่ทั้งลูกนาน 1 ชั่วโมงขึ้นไป หรือแช่ข้ามคืนได้ยิ่งดี แอปเปิ้ล หอมใหญ่ มะเขือเทศ ก่อนนำไปบริโภคทยอยนำมาผ่าซีก แล้วแช่ในน้ำเอนไซม์ซ้ำอีกครั้งนาน 15 นาที ถ้าทำได้จะดีต่อสุขภาพ (แอปเปิ้ล ควรรับประทานทั้งเปลือก)

การทดลอง

เพื่อการฟื้นฟูควรดื่มต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 7 - 15 วัน จะเริ่มเห็นผล มื้อเย็นควรงดอาหารประเภท แป้ง ข้าว เพราะเป็นตัวลดเกร็ดเลือด ควรดื่มน้ำเอนไซม์ด้วยจะช่วยคุ้มครองเกร็ดเลือดให้แข็งแรง และเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้ตามบทปฏิบัติ 10 ประการ

**** จะพบความมหัศจรรย์ของร่างกายด้วยตัวท่านเอง***
ควบคุมอาหารให้ได้ตามคำแนะนำของชมรมบ้านสุขภาพ

ไม่มีความคิดเห็น: