วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ผายปอดด้วยการไอป้องกันหัวใจล้มเหลวกะทันหัน (หัวใจวาย)?

จากเว็บไซต์ http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/General/Pakinaka/08.htm

เจ้าหน้าที่ 2 คนจาก The Johnson City Medical Center ได้ค้นพบวิธีและได้ทำการศึกษาจากห้อง ICU และได้ทำการเขียนบทความขึ้น บทความนี้ได้ถูกตีพิมพ์และได้รับการบรรจุเข้าในวิชา ACLS และ Cardiopulmonary Resuscitation (วิชาการผายปอด) วิธีการนี้ได้ถูกเรียกว่า “cough CPR” (ผายปอดด้วยการไอ)

วิธีการนี้สามารถช่วยเหลืออาการหัวใจล้มเหลวได้จริง และหากทุกคนที่ได้รับ e-mail นี้ส่งต่อให้คนอื่นๆอีก 10 คน พนันได้เลยว่าพวกเราอาจช่วยชีวิตคนได้อีกอย่างน้อยก็คงจะ 1 ชีวิตด้วยวิธีการนี้ ลองอ่านตรงนี้ดู....มันอาจช่วยชีวิตคุณไว้ได้!

สมมุติว่ามันเป็นเวลาหกโมงเย็นและคุณกำลังขับรกลับบ้านคนเดียว หลังจากเลิกงานแล้ว คุณรู้สึกเหนื่อยล้า หดหู่ และเครียด ทันใดนั้นเอง คุณก็รู้สึกเจ็บขึ้นที่หน้าอก อาการเจ็บเริ่มแผ่กระจายไปตามแขนและลามขึ้นมาถึงขากรรไกร โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านคุณที่สุดก็อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 5 กม. แต่คุณก็ไม่รู้ว่าคุณจะไปถึงหรือเปล่า??? คุณจะทำอย่างไร? ถึงคุณอาจเคยเรียนวิธีผายปอดมาแล้ว แต่สิ่งที่คุณเรียนมานั้นไม่ได้สอนว่าจะช่วยผายปอดตัวเองอย่างไร?

หลายคนอาจเกิดหัวใจล้มเหลวกะทันหันขณะที่อยู่คนเดียว หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจเกิดอาการหน้ามืดและจะหมดสติภายในเวลา 10 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยยังคงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยการไอแรงๆ ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง! ก่อนการไอแรงๆ ทุกครั้งควรสูดลมหายใจให้ลึกๆ การไอแต่ละครั้งควรไอให้ยาวๆ เหมือนกับตอนที่พยายามขากเสลดจากปอด การหายใจลึกๆ และไอแรงๆ ต้องกระทำต่อเนื่องทุกๆ 2 วินาที (ย้ำ ทุกๆ 2 วินาที) อย่างไม่หยุดจนกว่าจะได้รับการช่วยเหลือหรือจนกระทั่งรู้สึกว่าหัวใจ เต้นเป็นปรกติแล้ว การหายใจลึกๆ จะทำให้ปอดได้รับออกซิเจน ส่วนการไอแรงๆ นั้นจะทำให้แรงกระเทือนไปช่วยบีบหัวใจและทำให้เลือดหมุนเวียนได้ และแรงกระเทือนและแรงบีบหัวใจจากการไอนี้ จะช่วยทำให้หัวใจกลับสู่การเต้นปรกติได้ การทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้ที่ประสพอาการหัวใจ ล้มเหลวกะทันหันพาตัวเองไปถึงโรงพยาบาลได้

กรุณาส่งต่อข้อความนี้ให้กับคนอื่นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อว่ามันอาจมีโอกาสได้จะช่วยชีวิตของพวกเขาไว้

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รวมคติธรรมของท่านพระอาจารย์ ชยสาโร

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.kanlayanatam.com/audio/chayasaro/chayasaro1.htm

เป็นชาวพุทธ หรือ ชาวพูด “ ทุกวันนี้เราก็เป็นชาวพูดมากกว่าชาวพุทธ พูดจริงแต่ไม่ค่อยทำ....ชาวพูด พูดเฉยๆ.....เราไม่ได้เป็นชาวพุทธเพราะทะเบียน เราเป็นชาวพุทธเพราะความเพียร..เราเพียรพยายามเลิกละสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม พยายามบำเพ็ญสิ่งที่ดีงามในชีวิต พยายามทำสมาธิภาวนาให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหาในชีวิต.. ”


สิ่งน่าอัศจรรย์ที่คาดไม่ถึง “ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก คือ คนที่เคยเกิดมาในโลก ล้วนแต่เคยตายมาแล้วทั้งสิ้น แต่ไม่มีใครเชื่อว่า ตัวเองจะตายวันนี้ นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ ”


พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของเราทุกคน “ พระพุทธเจ้า สามารถเอาความคิดที่ลึกซึ้งของเราออกมาพูดเป็นภาษาคน เพราะฉะนั้น การได้พบพระพุทธศาสนาเท่ากับได้พบตัวเอง ทำให้เข้าใจการสอนของครูบาอาจารย์ที่ว่า พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของตำรา ไม่ใช่เรื่องของวัดวา ไม่ใช่เรื่องของนักบวช เป็นเรื่องของเราทุกคน เรื่องของหัวใจมนุษย์" ” เรื่องของพุทธศาสนา คือ เรื่องของตัวเองและเรื่องการละ เรื่องการบำเพ็ญ ก็ไม่มีอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่มีอยู่ในใจของเรานี่แหละ ”


ผู้มีอุปสรรคคือผู้มีบุญ “ ปัญญาเกิดจากการฝ่าฟันอุปสรรค ยิ่งมีอุปสรรคมากยิ่งมีโอกาสที่จะสร้างปัญญามาก ฉะนั้น ผู้ที่มีอุปสรรคมากๆเป็นผู้ที่มีบุญมาก น่าอิจฉา ”


ต้องหมั่นสอนตัวเอง “ ชาวพุทธเราเกิดมาเพื่อความฉลาด เพื่อเป็นที่พึ่งของตน เพื่อช่วยตัวเองได้ พระพุทธองค์ก็ชี้แนะแนวทางได้ ครูบาอาจารย์ก็ช่วยได้ แต่ในที่สุดท่านก็สอนเราตลอดเวลาไม่ได้ มีแต่ตัวเองสอนตัวเองตลอดเวลาได้ด้วยการมีสติคอยดูจิตใจตัวเอง ”


การเปลี่ยนความรู้จำให้เป็นความรู้จริง นับเป็นความยากอย่างยิ่ง “ ที่เราจะเข้าใจยากที่สุด หรือสิ่งที่เราจะเข้าถึงยากที่สุดก็คือ สิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว ฉะนั้น อย่าเป็นคนเก่า จงเป็นคนใหม่อยู่เสมอ อย่าไปเข้าใจว่า เรื่องนี้เรารู้แล้วเราเคยฟังหลายครั้งแล้ว มันจำเจแล้ว ”


ความสบายอยู่ที่ความพอดี “ ความสบายมันอยู่ที่ความพอดี คำว่า พอดี จึงเป็นปริศนาธรรมของพุทธ เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องพยายามเข้าถึง เราไม่ต้องพูดถึงมรรคผลนิพพาน ไม่ต้องพูดถึง สุญญตา ความว่าง อะไรสูงส่งอย่างนั้น เราพูดถึงง่ายๆธรรมดาๆคำนี้ก็พอแล้ว ทำอย่างไรชีวิตของเราจึงจะพอดี ทุกแง่ทุกมุมของชีวิต หากเรามีความพอดีก็จะสบาย ”


รอบคอบในความสบาย “ หลวงพ่อชาสอนว่าความสบายมี 2 อย่าง คือ ความสบายที่เป็นไปเพื่อความสบาย และ ความสบายที่เป็นไปเพื่อความไม่สบาย บางทีเราต้องผ่านความไม่สบายก่อนเราจึงได้ความสบายที่มีคุณค่า เพราะความสบายบางอย่างถึงแม้ว่าจะให้ความสุขในปัจจุบันแต่ก็เกิดความไม่สบาย ในอนาคต...เรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมก็เป็นตัวอย่างที่ดี เราอาจจะทำลายธรรมชาติเพื่อความสุขความสบายอยู่ในขณะปัจจุบัน หรืออาจจะทำเพื่อลูกเพื่อหลานของเราได้ โดยลืมเสียว่าลูกของเราหลานของเราก็จะมีลูกมีหลานเหมือนกัน การสงเคราะห์ลูกหลานของเราอาจเป็นการเบียดเบียนลูกของลูกๆที่ยังไม่ได้เกิด ”


ฉลาดในการช่วย “ ถ้าเรามีความหวังที่จะช่วยคนอื่นให้เราฉลาดในการช่วยตัวเอง เพราการช่วยตัวเองและการช่วยคนอื่นเป็นสิ่งเดียวกัน ชีวิตที่มีการช่วยตัวเองและช่วยผู้อื่นเป็นชีวิตที่เบิกบานผ่องใสด้วยการทำ หน้าที่ การทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็ด้วยการปล่อยวางความหวังในผล... ”“... เราจะช่วยคนอื่น เราต้องช่วยตัวเองด้วยว่า ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อยากจะช่วยคนอื่นอย่างถูกต้องให้ได้ผล มันก็ต้องฉลาดในการชนะกิเลสของตัวเอง ”


เมตตาที่แท้ “ เมตตาเป็นความรักที่ประกอบด้วยธรรมะ เป็นความรักที่สม่ำเสมอในสรรพสัตว์ทั้งหลาย บางทีพวกเราอาจจะเคยสังเกตตัวเองว่า การที่เราจะเมตตาสงสารคนอื่นๆที่ประเทศอื่น หรือคนที่เราไม่เคยได้พบเป็นสิ่งที่ง่าย แต่คนที่เราเมตตายากที่สุดคือคนที่อยู่ใกล้ชิด เพราะคนเหล่านี้แหละที่ทำให้เราหนักใจ ที่มีการกระทำและการพูดที่กระทบกระเทือนเราบ่อยๆฉะนั้นการแผ่เมตตาของคนทั่ว ไปมักจะเป็นไปในทำนองที่ว่า ” ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุขๆเถิด เว้นแต่คนนั้น ” ต้องมีเว้นแต่ เว้นแต่คนที่หนาด้วยกิเลส คนที่เราไม่ชอบ แต่นี่ไม่ใช่เมตตา เมตตาที่แท้จริงย่อมไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง ”


อย่าไปท้อ “ ถ้าเรากำลังมีปัญหาก็อย่าไปท้อใจ อย่าหดหู่ใจแต่ปลอบใจตัวเองว่า ถ้าเราอดทน ถ้าเราไม่ท้อถอย ในที่สุดเราต้องผ่านอุปสรรคนี่ได้เพราะพระพุทธองค์ทรงยืนยันได้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อันนี้เป้นกฏตายตัวของธรรมชาติ ”


อย่าเป็นนัก ” โทษ ”“ ความทุกข์เกิดขึ้นในชีวิต ชอบโทษคนอื่นชอบเป็นนักโทษ โทษคนนั้นโทษคนนี้โทษพ่อแม่โทษลูกหลานโทษรัฐบาล โทษเศรษฐกิจ โทษอาหาร สิ่งที่โทษได้ในชีวิตมีนับไม่ถ้วน แต่ว่าทุกข์ไม่ได้เกิดขึ้นจากสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านั้นเป็นแค่เงื่อนไขหรือเป็นปัจจัยหรือเป็นจุดกระตุ้นความทุกข์ อยู่ที่ใจ ”


เมตตาตัวเองแล้วก็เมตตาผู้อื่นด้วย “ บางสิ่งบางอย่างรู้ว่ามันดี แต่เราทำไม่ได้ บางสิ่งบางอย่างรู้ว่ามันไม่ดีแต่ว่าอดทำไม่ได้ อันนี้เราเป็นอย่างไรเขาก็เป็นอย่างนั้น เขาเป็นอย่างไรเราก็เป็นอย่างนั้น จิตใจเรานี้ยังไม่เข้มแข็งต้องให้อภัยตัวเอง เมตตาตัวเองแล้วก็เมตตาคนอื่นด้วย ”


สัมมาทิฐิเบื้องต้น “ การมีปัญหาเป็นความจริงเป็นสัจธรรม....ปัญญาพื้นฐานนี้สำคัญมาก ต้องรู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข สิ่งใดเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ อันนี้คือสัมมาทิฐิในระดับหนึ่ง ”


ล้างบาปไม่ได้แต่ละลายได้ “ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ความเชื่อเหมือนของขมๆ เอาของขมไว้ในภาชนะเล็กๆ เช่น แก้วน้ำ จะทำให้น้ำในแก้วขมหมดเลย แต่สมมุติว่าเอาของขมนั้นไปไว้ในแทงค์น้ำใหญ่ๆเปิดก๊อกชิมน้ำดื่มน้ำก็ไม่ขม แต่ไม่ใช่ว่าความขมหรือของขมหายไปเลย มันก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมแต่ว่ามีก็เหมือนกับไม่มี เพราะสิ่งที่จืด สิ่งที่สะอาด สิ่งที่ไม่ขมมากกว่าเสียจนความขมนั้นเกือบจะไม่มีความหมายถ้าเราทำคุณงาม ความดีไว้มากไม่ใช่ว่าจะลบล้างกรรมเก่าหรือบาปอกุศลที่ไม่ดีได้ทั้ง หมด....แต่เหมือนกับว่าพลังหรืออำนาจของความดีจะมากกว่าพลังของความชั่วจนมี เหมือนกับไม่มี ”


จะทำดีอ้างบุญบารมีน้อย แต่ทำชั่วไม่เคยอ้าง “ พวกเราชอบอ้างบุญ อ้างบารมีอยู่เรื่อย เพื่อเป็นการแก้ตัว บางคนก็อ้างว่าบุญหรือบารมีที่จะภาวนาก็ไม่มี ทำไมเรามีแต่บุญมีแต่บารมีเพื่อทำความชั่ว ทำไมเราไม่มีบุญบารมีเพื่อทำความดีบ้างบุญบารมีทำความชั่ว เห็นเรามีทุกคนตลอดเวลา ทำไมเราไม่มีบุญบารมีทำความดี นั่นต้องถามตัวเองอย่างนี้ ”


ติดดีก็เป็นทุกข์ “ ถ้าเป็นคนดีแล้วต้องรำคาญคนที่ไม่ดี ทุกวันนี้คนที่ไม่ดีมากกว่าคนดีเยอะ ไปที่ไหนก็กลุ้มใจ มีแต่ความไม่พอใจ เหมือนกับคนที่สูบบุหรี่ เลิกแล้วดูคนอื่นสูบก็ไปเทศน์ให้เขาฟัง นี่เรียกว่า ติดดีท่านไม่ให้ติด แม้จะเป็นความดีท่านก็ไม่ให้เราติด เพราะว่า ความติดเป็นทุกข์ สร้างความทุกข์แก่ใจ ”


ทำดีต้องได้ความดี “ ทำดีต้องได้ความดี ทำชั่วต้องได้ความชั่ว ถ้าเราทำความดีแล้วเราก็ย่อมได้ความดีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าผลที่จะได้ออกมาทันตาเห็น อาจจะไม่สมปรารถนาก็ได้ แต่สิ่งที่ไม่สมปรารถนาก็อาจเป็นไปเพื่อสิ่งที่สมปรารถนาในภายหลังก็ได้ แล้วสิ่งที่สมปรารถนาอาจจะเป็นไปเพื่อความทุกข์ ความเดือดร้อนในภายหลังก็ได้ มันก็ไม่แน่นอน ”


ความสุขในโลกเหมือนน้ำผึ้งติดปลายมีดโกน “ ความสุขในโลกมีหลายอย่าง ความสุขบางอย่าง ท่านบอกว่าเหมือนกับ ” น้ำผึ้งติดปลายมีดโกน ” คิดดูซิมันเป็นอย่างไร น้ำผึ้งติดปลายมีดโกน น้ำผึ้งแสนอร่อยเราไปเลียมัน อร่อยที่สุด แต่ต่อมาเป็นอย่างไร มันบาดลิ้นเรา ความสุขในโลกเป็นอย่างนี้ ”


ปัญหาที่ต้องแก้ไข และ ปัญหาที่ต้องยอมรับ “ การมีปัญหาเป็นความจริง เป็นสัจธรรมเป็นสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้ ต้องรู้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขสิ่งใดเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ อันนี้คือ สัมมาทิฏฐิในระดับหนึ่ง เพราะถ้าเราหลงยอมรับในสิ่งที่เราต้องแก้ไข แต่เราไปแก้ไขในสิ่งที่ควรยอมรับ การปฏิบัติของเราก็คงเป็นหมัน เราก็ไม่ได้ก้าวหน้า ในที่สุดก็ท้อใจล้มเลิกการปฏิบัติ ”


ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่จะคอยให้อภัยตนเอง “ เมื่อเราทำอะไรด้วยความมักง่ายด้วยความขาดตกบกพร่อง ผลที่เกิดขึ้นมักจะเป็นโทษ เป็นโทษทั้งแก่ตนเองและคนอื่นด้วย แล้วเราก็คิดปลอบใจตนเองว่าไม่เป็นไรๆ เราไม่เจตนา ปล่อยวางซะ อย่าไปคิดเลย การคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมะ... ” เราทำอะไรต้องรับผิดชอบด้วย ให้เราระลึกอยู่เสมอว่า เราต้องตั้งสติอยู่ในความจริงอยู่เสมอว่า วันนี้แหละเราก็ตายเป็น เราไม่มีเวลาที่จะไปทำอะไรแบบนั้น ที่เราคิดว่าเราไม่ได้ตายวันนี้หรอก อันนี้ก็เป็นกิเลส เป็นความคิดที่ผิด ชีวิตของเรานั้นเปราะบางมาก มันเบาบางมาก มันแตกสลายได้ง่าย เป็นของนิดเดียวเหมือนฟองน้ำไม่มีความมั่นคง


จงภูมิใจและไม่ประมาทในความเป็นมนุษย์ “ การเกิดเป็นมนุษย์นี้ เกิดยากจริงๆเป็นโอกาสที่ไม่ควรจะพลาด ไม่ควรจะประมาทในโอกาสอันแสนยากนี้ เพื่อจะได้ปฏิบัติธรรมะตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ให้มีความอิสระเสรี ให้พ้นจากความทุกข์ เพราะว่าในบรรดาสัตว์ในโลกหรือสัตว์ในภูมิต่างๆ มีแต่มนุษย์เราเท่านั้นที่มีอุปกรณ์พร้อม หรือมีความเฉลียวฉลาดพอสมควรที่จะบรรลุความจริงอันลึกซึ้งของพระพุทธเจ้าได้ ”


ตัวบาป ตัวบุญ “ ถ้าเราทำสิ่งใดด้วยความรู้สึกของตัวตนมีเรามีของเรา ทำอะไรที่เบียดเบียนตนเอง และเบียดเบียนคนอื่น จิตใจก็เศร้าหมอง ว้าวุ่น ขุ่นมัว ผิดปกติไป นี่แหละเรียกว่า บาปถ้าเราทำสิ่งใดด้วยความเสียสละอย่างแท้จริง ทำเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขของคนอื่น โดยปราศจากผลประโยชน์ของตนเอง จะเห็นว่าจิตใจของเราผ่องใสเบิกบาน นั้นแหละตัวบุญ ”


ความจริงที่แน่นอน “ พระพุทธองค์เกิดขึ้นในโลกก็ตาม ไม่เกิดขึ้นในโลกก็ตาม สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยงเป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน หลัก ” อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ” อันนี้เป็นความจริงที่แน่นอน ”


พุทธบริษัทถ้าขี้เกียจปฏิบัติก็ล้มละลายได้เช่นกัน “ ถ้าเรามีอาชีพอยู่ในโลก เวลาเราจะลุกขึ้นตอนเช้า เราไม่ได้คิดว่า เราจะไปทำงานหนอ จะไม่ไปหนอ จะนอนต่อหนอ คิดว่า ถ้าเราไม่จำเป็นต้องไปทำงาน เราก็ไม่ได้กิน เดียวเขาจะไล่ออก ของเราก็เหมือนกันให้ถือว่าการปฏิบัติธรรมมีความจำเป็น เป็นหน้าที่ของเราแล้วบริษัททุกบริษัทถ้าไม่ทำกิจกรรม ไม่ทำหน้าที่ของมัน มันก็จะล้มละลาย พุทธบริษัทก็เหมือนกัน ถ้าพุทธบริษัทไม่ทำหน้าที่ ไม่ทำกิจกรรมของตน มันก็จะล้มละลายเหมือนกัน ศาสนาพุทธก็จะหายไปจากโลก ”

จากคุณ : ลูกศิษย์ (คนอุบล)

ประวัติท่านชยสาโร ภิกขุ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.kanlayanatam.com/Myimage-index/chayasaro.htm



ประวัติท่านชยสาโร ภิกขุ

นามเดิม ฌอน ชิเวอร์ตัน ( Shaun Chiverton )

พ.ศ. ๒๕๐๑ เกิดที่ประเทศอังกฤษ

พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้พบกับท่านอาจารย์ สุเมโธ ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ ถือเพศเป็นอนาคาริก (ปะขาว) อยู่กับท่านอาจารย์ สุเมโธ เป็นเวลา ๑ พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย

พ.ศ. ๒๕๒๒ บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

พ.ศ. ๒๕๒๓ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมีหลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ. ๒๕๔๐-๔๔ รักษาการณ์เจ้าอาวาส วัดป่านานาชาติ จ.อุบลราชธานี

ปัจจุบัน พำนัก ณ สถานพำนักสงฆ์ จังหวัดนครราชสีมา

ท่านพระอาจารย์ ชยสาโร เป็นชาวอังกฤษ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่แสดงธรรมเทศนาโดยใช้ภาษาไทยได้อย่างสละสลวยเข้าใจง่าย คติธรรมนี้รวบรวมจากธรรมเทศนาของท่าน จึงนำมาเผยแผ่เพื่อผู้สนใจในธรรมะ

รวมคติธรรมของท่านพระอาจารย์ ชยสาโร

ฟังเทศนาธรรมท่านอาจารย์

พ.ศ. 2545
01 Doing...being
02 ชนะมาร
03 อัศวินเขียว
04 นั่งหลับตาอย่างเดียวไม่พอ
05 สัญญาไม่เป็นสัญญา
06 ธรรมะเอ็มแปค
07 เล่าเรื่องหลวงพ่อชา
08 พลังศักดิ์สิทธิ์ของผู้มีศิล
09 รู้ทัน - กันหลง
10 กำไรจากทุกข์
11 หยุด...แล้วดูทุกข์
12 จุดจบ
13 วัชพืชในใจ
14 จำได้เพราะจำไว้
15 หาแก่นจากต้นกล้วย
16 กรณียเมตตสูตร
17 อยู่ต่ำน้ำท่วม
18 ปล่อยวางสร้างปัญญา
19 ธัมโม หรือทึ่มโม้
20 แก่แล้วอย่าเป็นธนูหัก
21 อ่านใจ

พ.ศ. 2546
01 พร ๕
02 ยินดีในทุกข์
03 พูดจาชอบ หรือชอบพูดจา
04 ฟังข่าว
05 หมอดู หมอเดา
06 ตารางตรวจกิเลส
07 พลังศรัทธา (วิสาขบูชา)
08 โต้คลื่นเวทนา
09 จิตสงบพบปัญญา
10 มรดกทางใจ
11 กราบพระทำไม
12 มหาอำนาจทางธรรม
13 ล้างสมอง
14 เพาะปัญญาแนวพุทธ
15 ศรัทธาไว้ก่อน
16 ความมหัศจรรย์ของจิตเป็นกลาง
17 รู้ทันธรรมชาติของความคิด
18 ไม่แน่_ไว้แก้อุปาทาน
19 ภาวนาเชื่อมหัวใจกับสมอง
20 พัฒนาจิตเป็นกลาง
21 โยนิโสมนสิการ (การเคลื่อนไหวของใจสู่ความสร้างสรรค์)
22 เตรียมปฏิบัติอย่างไร
23 ของจริงยิ่งดูยิ่งชัด
24 อาการผู้ก้าวหน้าในธรรม
25 มนุษย์ที่สมบูรณ์ (สัปปุริสธรรม)
26 สัจจะบารมี
27 ใกล้เกลือกินเกลือ
28 อานิสงส์การรักษาศีลแปด
29 ถือตัวว่าไม่เก่ง
30 ทำมั่งไม่ทำมั่ง ไม่ใช่มังคะลัง
31 ที่พึ่งทางใจมีหรือยัง
32 หลงจิตกะล่อน
33 ทางด่วนสายปราโมทย์
34 นิ่งอย่างมีชีวิตอย่างยิ่ง

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ส่งความหวาน มอบความสุข ผ่าน ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอบีซี

มอบของขวัญที่แสนหวาน ให้กับคนที่คุณรักมากที่สุด ในรูปแบบที่คุณกำหนดได้เอง !!!

ข้อมูลจาก http://www.abcchocolate.com/

ช็อกโกแลต ตัวอักษร ABCChocolate ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี !!!
ช็อกโกแลต ตัวอักษร ABCChocolate.com 083-6869920-1 !!!
ช็อกโกแลต ตัวอักษร ABCChocolate เจ้าต้นตำรับ ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ของแท้ !!!

คุณกำลังมองหาของขวัญ ที่สามารถสร้างความประทับใจ สำหรับคนพิเศษของคุณอยู่หรือป่าว?

ในการเลือกของขวัญน่ารักๆ เนื่องในโอกาสดีๆ ของคุณทั้งคู่นั้น ไม่สำคัญว่าจะเป็นวันพิเศษมากแค่ไหน ถ้าของขวัญชิ้นนั้นได้ผ่านความผิถีผิถันจากคนให้แล้วนั้น อาจทำให้ในวันธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป กลายเป็นวันพิเศษที่สามารถสร้างความประทับใจ และถูกเก็บไว้ในความทรงจำที่ดีของคุณทั้งคู่ ได้ตราบนานเท่านานเลยทีเดียวก็ได้…

จะดีมั๊ย? ถ้าคุณสามารถมอบของขวัญที่ดี ที่มีความหมายในตัว รวมทั้งคุณยังเป็นผู้ที่จัดเลือกรูปแบบเองได้

เพื่อแสดงออกถึง เอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ ไม่ซ้ำกับใคร

ช็อกโกแลต ตัวอักษร ABCChocolate.com ออกรายการ “คิดดีมีเงิน” ทางช่อง 7
วีดีโอ ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอบีซี – รายการ เจาะเกาะติด ทางช่อง 7
วีดีโอ ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอบีซี – ขนาด 15 ชิ้น

“คุณเคยรักใครสักคนมั๊ย? คุณรักเค้ามากแค่ไหน? คุณยังคงบอกรักเค้าทุกวันด้วยข้อความเดิมๆ อยู่หรือเปล่า?“


คุณจะรู้สึกอย่างไร? ถ้าคุณสามารถเลือกของขวัญได้เอง ในรูปแบบที่คุณกำหนดได้ เป็นแบบเฉพาะคุณคนเดียว แถมยังกำหนดข้อความสั้นๆ ให้ประทับลงไปในของขวัญชิ้นสำคัญนี้ แล้วส่งตรงไปยังคนที่คุณรัก ซึ่งมีความหมายมากกว่าของขวัญชิ้นไหนๆ ที่ผ่านมาซะอีก

ส่งความหวาน มอบความรู้สึกดีๆ ด้วยช็อกโกแลต ในรูปแบบที่คุณกำหนดเอง

I Love You – วลีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

หากคุณคิดจะส่งข้อความดีๆ ให้กับคนที่คุณรัก แต่คุณไม่สามารถพรรณาถึงความรู้สึกที่มีทั้งหมดได้ หรือหากว่าบอกได้ แต่มันคงยาวเป็นหน้ากระดาษ

ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ ที่คนเราเลือกใช้บอกแทนความรู้สึก ส่งมอบความหวาน ให้กับคนที่คุณรักมานานหลายพันปีแล้ว (ประวัติของช็อกโกแลตมีมากว่า 2,600 ปีมาแล้ว)

จะดีแค่ไหน? หากว่าคุณสามารถส่งความรัก และความรู้สึกที่มี ให้กับคนที่คุณรัก หรือแอบหลงรักอยู่ได้รับรู้ ในรูปแบบของคุณเอง ไม่เหมือนใคร ด้วยวลีที่เป็นแบบเฉพาะของคุณ หรือคำพูดที่คุณ 2 คน เท่านั้นที่จะเข้าใจความหมายนั้น และที่สำคัญ!!! วลีที่คุณส่งไปนั้นมันยังสามารถทานได้ และอร่อยอีกด้วย

ศิลปิน K.O.M จากค่าย Chillin’Groove – introduce
ศิลปิน Freddyจาก SouthSide ค่าย Thaitanium – introduce


ช็อกโกแลต ตัวอักษร ABCChocolate.com

ยินดีเสนอบริการจัดช็อกโกแลตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต ตัวอักษร เอบีซี แบบมาตรฐาน ซื่งสามารถจัดเรียงใส่กล่องขนาดต่างๆ ที่ทางเราได้จัดเตรียมไว้คอยบริการคุณอยู่แล้ว หรือจะเป็น ช็อกโกแลต แบบกำหนดเอง โดยคุณสามารถกำหนดรูปแบบต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นรูปโลโก้บริษัท รูปสัญลักษณ์ต่างๆ ตามจำนวนที่คุณกำหนดได้

เรายินดีให้อิสระทางความคิดแก่คุณ โดยเรามีทีมงานมืออาชืพ จากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไว้คอยให้บริการคุณ ไม่ว่าคุณอยากได้ช็อกโกแลตแบบไหน รูปแบบอย่างไร โดยเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างเต็มความสามารถ


Chocolate A B C / Chocolate Letter

Chocolate A B C / Chocolate Letter

Chocolate A B C / Chocolate Letter

ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ในกล่องหัวใจ

Chocolate A B C / Chocolate Letter

ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ขนาด 5 ชิ้น

ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ขนาด 10 ชิ้น

ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ขนาด 15 ชิ้น

ช็อกโกแลต ตัวอักษร เอ บี ซี ขนาด 20 ชิ้น

ตำนานดอกกุหลาบ

ข้อมูลจาก http://www.panmai.com/Valentine/rose_legend.shtml


ดอกกุหลาบ กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย

ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย

ดอกกุหลาบ ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย

กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

ดอกกุหลาบ บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง

กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ


ดอกกุหลาบตำนานดอกกุหลาบในเมืองไทย

กุหลาบมาจากคำว่า "คุล" ในภาษาเปอร์เชีย แปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" และเข้าใจว่าจากเปอร์เซียได้แพร่เข้าไปในอินเดีย เพราะในภาษาฮินดีมีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก

ดอกกุหลาบ กุหลาบเข้ามาเมืองไทยสมัยใดไม่ทราบแน่ชัด แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บันทึกไว้ว่าได้เห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และที่แน่นอนอีกแห่งก็คือ ในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กล่าวถึงกุหลาบไว้ว่า

กุหลาบกลิ่นเฟื่องฟุ้ง
หอมรื่นชื่นชมสอง
นึกกระทงใส่พานทอง
หยิบรอจมูกเจ้า


เนืองนอง
สังวาส
ก่ำเก้า
บ่ายหน้าเบือนเสีย

สำหรับตำนานดอกกุหลาบของไทยเล่ากันว่า เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งนางได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มากแต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาบให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา

กุหลาบกุหลาบขาว กับ กุหลาบแดง สีไหนเกิดก่อน ?

มีหลายตำนานเล่าถึงการเกิดกุหลาบสีขาวและกุหลาบสีแดงไว้แตกต่างกัน ตำนานหนึ่งเล่าว่า กุหลาบขาว เกิดขึ้นก่อน กุหลาบแดง เดิมทีมีนกไนติงเกลตัวหนึ่งมาหลงรักเจ้าดอกกุหลาบขาวแสนสวย ขณะที่มันกำลังจะโอบกอดดอกกุหลาบด้วยความรักนั้นเอง หนามกุหลาบก็ทิ่มแทงที่หน้าอกของมัน หยดเลือดของเจ้านกไนติงเกลเลยทำให้ดอกกุหลาบสีขาวกลายเป็นสีแดง เลยมีดอกกุหลาบสีแดงนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนอีกตำนานหนึ่งก็เล่าว่ากุหลาบสีแดงใน สวนอีเดน เกิดจาการจุมพิตของ อีฟ เจ้าดอกกุหลาบขาวที่หญิงสาวจุมพิต เลยเกิดอาการขวยเขินจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง

นอกจากนี้ ความหมายของความรักในศาสนาคริสต์ ถือว่ากุหลาบสีขาวแทนความบริสุทธิ์ของ พระแม่มาเรีย และกุหลาบสีแดงเกิดจากหยาดพระโลหิตของ พระเยซูเจ้า เมื่อถูกสวมมงกุฎหนาม มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศศาสนาที่พลีชีพเพื่อพระผู้เป็นเจ้า

กุหลาบสีกุหลาบสื่อความหมาย

ในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ดอกกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ และของกำนัลของวันนี้ ดังนั้นเวลาที่คิดจะให้ดอกกุหลาบแก่ใครสักคน เราก็น่าจะรู้ความหมายของสีอันเป็นสื่อความหมายของดอกกุหลาบไว้บ้างก็น่าจะดี ซึ่งก็จะมีความดังนี้

  • สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ
  • สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์
  • สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง
  • ดอกกุหลาบสีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ
  • สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
  • กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย

ดอกกุหลาบช่อกุหลาบสื่อความหมาย

จำนวนดอกกุหลาบในช่อก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สื่อ ความหมายได้เช่นกัน และในวันวาเลนไทน์หรือวันไหนๆ ถ้าคุณได้ช่อดอกกุหลาบจากใครสักคน เค้าคนนั้นอาจกำลังต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างให้คุณรู้ก็เป็นได้

จำนวนดอกกุหลาบ
1
2
3
7
9
10
11
12
13
15
20
21
36
40
99
100
101
108
999

ความหมาย
รักแรกพบ
แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
ฉันรักเธอ
คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
เราสองคนจะรักกันตลอดไป
คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
เพื่อนแท้เสมอ
ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
ความรักของฉันเป็นรักแท้
ฉันรักเธอจนวันตาย
ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย

ความหมายของดอกไม้วาเลนไทม์

ความหมายของดอกไม้วาเลนไทม์

รู้หรือไม่ "Valentine" มีความหมายแยกตามตัวอักษร

ทำได้ครบทุกอักษร รับประกันชีวิตรักราบรื่น-มีความสุข

นอกจากวันวาเลนไทน์จะมีตำนานเล่าขานถึงความรักอันบริ สุทธิ์ของเซนต์วาเลนไทน์แล้ว ทุกๆอักษรของคำว่า Valentine ยังมีความหมายดีๆที่หลายๆคนคาดไม่ถึง

V คือ VERITY ความจริงที่มีอยู่ ซึ่งความจริงแล้วถ้าความจริงสิ่งที่เป็นอยู่ของคุณแล ะเธอ หรือเขาที่มีต่อกันแล้ว ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเข้าใจก็จะมีเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณทีเดียว ในโลกนี้มีสิ่งที่รู้อยู่เพียง 4 อย่างเท่านั้น คือ คุณรู้ เขาไม่รู้ คุณไม่รู้ เขารู้ คุณรู้ เขารู้ คุณไม่รู้ เขาก็ไม่รู้ ถ้าหากคุณบอกสิ่งที่คุณรู้และเขาไม่รู้ หรือคุณไม่รู้เขาบอกให้คุณรู้ ความรู้นั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่เปิดเผย จะบอกเขาว่ารัก ก็รีบๆ บอกเสียในวันนี้ อย่าบอกว่า การกระทำก็บอกอยู่แล้ว สายตาก็บอกอยู่แล้ว บอกให้ชัดๆ เสียว่า "รักคุณ"

A คือ AMBITION เป็นความปรารถนาดีอย่างแรงกล้า คุณจะรัก จะชอบ จะจีบใคร คุณควรมีความปรารถนาอย่างสูง มิใช่เห็นเขาส่งการ์ดให้ ส่งดอกไม้ให้ พาเขาไปฉลองสนุกๆ เท่านั้น คุณควรมีความปรารถนาในความรักอย่างจริงจังมิใช่ทำไปเ พื่อตามแฟชั่น หรือเพื่อนพ้องลากไป หรือชวนให้ทำ ไปสรรหาการ์ดสวยๆ สั่งดอกกุหลาบสีแดงสดสวยๆ ไว้ล่วงหน้า พยายามทำด้วยความปรารถนาดีที่มีไฟอยู่ในใจนะ

L คือ LENIENT ความผ่อนปรน ความปรานี คุณและเขาหรือเธอควรจะมีการผ่อนปรน หรือสิ่งที่ละทิ้งได้ก็ควรจะละทิ้งไป อย่าเก็บมาใส่ใจให้เป็นขยะในใจ หรือรอยมลทินใจ อย่าคิดอะไรเก่าๆ สมัยนี้ควรที่จะคิด จะนึกได้นะว่า บางอย่างก็ทิ้งๆ ไป เสีย อย่านำมาคิด มีความปรานี เมตตาหรือความรัก ความปรารถนาดีกว่า

E คือ EQUALITY ความเสมอภาค ความทัดเทียมกันในสมัยปัจจุบัน คู่รักหรือคนรักกัน ควรจะมีความเท่าเทียมกันมิใช่อยู่ในสมัยบรรจงกราบเช้ า กราบเย็น นอนทีหลังตื่นก่อนแล้ว เราต้องก้าวไปด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่นในอนาคต ด้วยความเสมอภาค แต่เราก็คิดเสมอว่าเคียงข้างไปด้วยกัน ขนานกันดีกว่าที่จะมาจูงกัน ก้าวไปด้วยความรักที่มีเท่าเทียมกัน เขามอบอะไรให้เรา เราก็ควรจะตอบแทนให้เขาเท่าๆ กัน พอๆ กัน มิใช่เอารัดเอาเปรียบเขา เขามาแสดงความรัก ความยินดี ด้วยกุหลาบช่อใหญ่ แต่เราให้เขาเพียงดอกเดียว ดูเป็นการเอาเปรียบกันเกินไป จริงอยู่บางคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่มันสำคัญที่ใจ ถ้าหากต่างคนต่างให้ความเสมอภาคแล้ว ตาชั่งก็คงไม่เอียงใช่ไหม



N คือ NOTABLEการ ยกย่องให้อยู่ในสภาพที่ดี ถึงแม้คุณจะมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันแล้วก็ตาม คุณก็ควรจะยกย่องเธอหรือเขาให้อยู่ในสถานภาพที่ดีต่อ บุคคลทั่วไป คือ เป็นการให้เกียรติยกย่องเธอหรือเขาต่อสังคม ว่าเป็นคนที่สวยเป็นคนที่ดี ไม่ว่าอยู่ต่อหน้า และลับหลัง มิใช่เอาไปนินทา เอาไปเผาต่อหน้าเพื่อนฝูงให้ไหม้เป็นจุณไป หรือพูดคุยตลกคะนอง ลับหลังเธอหรือเขาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สู้ฉันไม่ได้ ฉันยอด คุณควรจะยกย่องเธอหรือเขา ในโอกาสที่ควร และในเวลาที่กำลังมีความรักอยู่ด้วยแล้วก็จะดียิ่งที เดียว

T คือ TENDERความรักใคร่ที่นุ่มนวล บรรจงเป็นห่วงเป็นใย Love me Tender คงจะบอกคุณได้หลายๆ อย่าง คุณควรจะทะนุถนอมเธอหรือเขาด้วยความรัก ความนุ่มนวล ความห่วงใย โทร.ไปสวัสดี Valentine ตั้งแต่ใครยังไม่โทร.ไปสวัสดีก่อน เพื่อให้เธอหรือเขาเห็นว่าคุณมีความห่วงใย ความปรารถนาดีแค่ไหน ไปฉลองด้วยกันต้องนุ่มนวลในบรรยากาศอย่างนั้น ดูซิ แสนจะสดชื่นกับความรักแค่ไหน

I คือ INNOVATION การทำความแปลกใหม่มาให้คู่รัก คนรักหรือชีวิตรัก มิใช่อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้นมาตลอด ชอบกันอย่างไรก็ชอบกันมาอย่างนั้น เคยให้อะไรก็ให้อย่างนั้น คุณควรจะทำสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาสู่ชีวิตคุณและเธอหรือเขาด้วย การเปลี่ยนแปลงเป็นวิถีของชีวิต ดังนั้น คุณควรจะเปลี่ยนอะไรๆ บ้าง ในทางที่ดีนะ อย่างคุณจะหาอะไรในวัน Valentine ให้เธอเปลี่ยนจากดอกไม้ที่เป็นดอกกุหลาบมาเป็นผ้าตัด เสื้อลายกุหลาบ หรือผ้าเช็ดหน้าปักกุหลาบแดง หรือจี้เพชรรูปกุหลาบ เข็มกลัดกุหลาบก็ได้ ส่วนคุณที่จะมอบให้เขาอาจเป็นผ้าเช็ดหน้าปักกุหลาบ เข็มกลัดไทรูปกุหลาบ หรือแหวนรูปกุหลาบสำหรับใส่นิ้วก้อยสักวง ลองเปลี่ยนบ้างนะ

N คือNEXUSการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ให้มีตลอดไปมิใช่วัน Valentine เท่านั้นที่คุณจะมอบกุหลาบให้เธอหรือเขา วันเกิด วันปีใหม่ วันครบรอบความรักที่เคยให้กันไว้ วันครบรอบวันแต่งงาน หรือวันสำคัญๆ ที่คุณให้ก็ได้ หรือบางวันก็ส่งช่อดอกไม้ไปให้เธอช่อใหญ่ๆ พร้อมกับคำขวัญสั้นๆ ว่า "รักคุณ" ให้คนในที่ทำงานหรือเพื่อนๆ อิจฉาเล่นก็ได้ เป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ของคุณต่อเธอหรือเขาว่าคุ ณยังคิดถึง ยังรักอยู่นะ

E คือ ENDURANCE ความอดทน ความยืนยงสถาพร ความอดกลั้น ความเป็นอมตะ อยู่ชั่วกาลนานคุณจะต้องมีความอดทนต่อทุกๆ สิ่ง ถ้าหากคุณต้องเผชิญกับสิ่งนั้น อาจเป็นเวลาที่คุณจะต้องคอย คุณจะต้องยืนหยัดในความปรารถนาของคุณ คุณต้องอดกลั้นเมื่อคุณเผชิญต่อสิ่งที่คุณจะต้องโมโห หรืออารมณ์เสีย ต่อหน้าเธอหรือต่อหน้าเขา คุณควรประพฤติและปฏิบัติอย่างเป็นไปอย่างนั้นอย่างเส มอๆ มิใช่นานเกือบเดือนเพิ่งจะโทร.ไปหาหรือเขียนจดหมายมา หรือหายไปเป็นปีเพิ่งจะมาบอกว่า "รักคุณ"



วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2550 นี้ เป็นวันที่จะมอบความรัก ความเมตตาให้แก่กันและกันหรือยัง เป็นความรักที่บริสุทธิ์จากใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ระหว่างพ่อ แม่ ลูก เพื่อนกับเพื่อน ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ฯลฯ มิใช่เพียงการสื่อความหมายในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เ พียงอย่างเดียว

นัยของความหมายวันวาเลนไทน์ จึงมิได้หมายถึง ความรักฉันท์ชู้สาวเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายรวมถึงความรักที่มีต่อเพื่อน ครอบครัว สังคม โดยเฉพาะความรักกับจิตสำนึกทางศาสนา ซึ่งจะมีหลักคำสั่งสอนเกี่ยวกับสิ่งที่ดีงามไว้

เรื่องความรักก็เช่นกัน ความรักในศาสนาคาทอลิค กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า ความรักแท้ต้องรักอย่างเสียสละทุกอย่าง ไม่ใช้อารมณ์ จงรักแม้ผู้ที่วางตัวเป็นศัตรู ให้อภัยบุคคลทุกคนเสมอต้องเสียสละความรักแม้ต่อตัวเอ ง คือ รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง

ความรักในศาสนามุสลิม มุสลิมทั่วโลก เมื่อพบกันหรือจากกัน จะกล่าวว่า "ด้วยพระนามของพระองค์ อัลเลาะห์(ซุปห์ฯ) ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ" เป็นการสอนให้มนุษย์มีความรัก ในรูปของ ความเมตตา กรุณา ปราณี และความสันติสุข จะบังเกิด โดยใช้หลักความอดทน การอยู่อย่างเสมอภาค โดยการจำกัดทรัพย์สินและบริจาคทรัพย์สิน ที่มีเกินอัตราที่กำหนดให้คนยากจนเป็นการสร้างความรั กที่เน้นการให้ การเสียสละ และสร้างความเห็นอกเห็นใจกัน

ความรักในพุทธศาสนา ตามคติธรรมจากพระราชนันทมุนี คือ การไม่เบียดเบียนกัน ต้องมีความรักกัน มีความเมตตากัน โดยมีพื้นฐานของความรักในพระพุทธเจ้า รักพระธรรม รักพระสงฆ์ เมื่อรักแล้วทำให้ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง เป็นการสร้างคุณความดี ต่อตนเอง และผู้อื่น เกิดการอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อกัน

แม้ว่าวันวาเลนไทน์จะมีความหมาย หลายแง่มุม แต่หากจะมองในมุมของเพศสัมพันธ์ วันวาเลนไทน์ ส่งผลกระทบเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นไทย นับวันจะเป็นปรากฏการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางภาพที่สับสนเกี่ยวกับค่านิยม "รักนวลสงวนตัว" หรือ "การชิงสุก ก่อนห่าม" ที่กำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรงในปัจจุบัน

การมอบกุหลาบหรือสิ่งของเป็นสื่อแทนความรู้สึกที่ดีต ่อกัน ในความหมายของคำว่า Valentine หากใครยังไม่ปฏิบัติ ก็ปฏิบัติได้ในปีนี้ หรือในโอกาสที่สมควรก็ได้ เพื่อสังคมเราจะได้มีแต่ความรักความสุขและรอยยิ้ม……… .คงไม่สายที่เราจะเริ่มสร้างไมตรีในวันสำคัญนี้