วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

ไม่ถ่ายตอนเช้า.. เกิดอะไรขึ้น??

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.detoxfirst.net/notoilet.html




หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ผลจากการเปลี่ยนอาหารการกินเป็นแบบตะวันตก
การใช้ชีวิตและกิจวัตรประจำวันต่างเปลี่ยนไปมาก ผู้คนจึงเจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่าง
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มะเร็งลำไส้ เป็นหนึ่งในโรคนั้น ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วย
โรคมะเร็งลำไส้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำคัญมาก..ถ้าไม่ขับถ่ายตอนเช้า..จะเกิดอะไรขึ้น?
ในช่วงเวลา 05.00-07.00 น.
เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ถ้ายังไม่ยอมขับถ่ายอุจจาระ แล้วปล่อยเวลามาถึง07.00-09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของกระเพาะอาหารแล้ว
ยังไม่ยอมกินข้าวอีก อุจจาระจากลำไส้ใหญ่ที่ไม่ได้ขับถ่ายออก จะถูกบีบตัวกลับไปที่บริเวณลำไส้ใหญ่ตอนบนต่อกับลำไส้เล็ก
ตอนปลาย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการดูดซึมสารอาหาร
ในอุจจาระเก่า มีแก๊สที่เสียแล้ว เกิดการบูดเน่าโดยอุณหภูมิของร่างกายที่มี
ความร้อน 37 องศาตลอดเวลา ไม่เหมือนกับในตู้เย็นที่เก็บได้นานกว่า เพราะฉะนั้น แก๊สพิษเหล่านี้ จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด
เลือดจึงไม่สะอาด และถ้าเลือดที่ไม่สะอาดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายไหลผ่านสมอง หัวใจ ปอด ม้าม ตับ ผิวหนัง อวัยวะเหล่านี้
ก็จะได้รับแก๊สพิษด้วย เช่น
ก่อน เที่ยงถึงบ่าย ง่วงนอน เพราะเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงหัวใจ หัวใจก็จะอ่อนล้า ไปเลี้ยงปอด
ปอดก็จะขับออกทางผิวหนังและลมหายใจ ตัวเองอาจไม่ค่อยได้กลิ่น แต่คนอื่นจะได้กลิ่น เพราะฉะนั้น ถ้าปล่อยไว้
โดยไม่ขับถ่ายช่วงเวลา 05.00-07.00 น. นานเข้าเป็นเวลาหลายปี ทำให้เลือดที่ไม่สะอาดไหลผ่านไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่าง ๆ
และหากยังไม่ยอมกินข้าวเช้า ช่วงเวลา 07.00-09.00 น. อีก สมองก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เมื่อแก่ตัว ความจำก็
เสื่อมเร็ว ปวดเข่าเมื่อมีอายุมากขึ้น เป็นริดสีดวงทวาร ฯลฯ
เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ หรือเลี้ยงสมองได้น้อย
จะเริ่มมีอาการดังนี้
  • ผมร่วง หน้าแก่เร็ว คออักเสบง่าย
  • นอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่เต็มอิ่ม ฝันบ่อย
  • ปวดไหล่ ตื่นกลางดึกบ่อย ๆ
  • ปวดหัวข้างเดียว ปวดหู ปวดกระบอกตา
  • เป็นไซนัส เหงือกบวม เจ็บคอ เจ็บลิ้น
  • ปวดชายโครง ปวดหลัง ปวดเข่า
  • กระดูกสะโพกเคลื่อนได้ง่าย ปวดสะโพก ปวดข้อเท้า หลังเท้า
  • วิตกกังวล อาจมีอาการทีละอย่างหรือหลายอย่างพร้อมกัน

สมองเสื่อม

จากงานวิจัยในประเทศไทย พบว่าวันข้างหน้าอีกประมาณ 4-5 ปี จะมีผู้ป่วยสูงอายุเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 9 ล้านคน เมื่อเราทราบอย่างนี้
แล้ว ก็มาหาทางบำรุงสมองกันดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมก่อนเหตุอันควร ซึ่งเมื่อเป็นแล้วจะเป็นภาระกับคนในครอบครัวอย่างมาก

ที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา

สาเหตุ หนึ่งทีเลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อย เป็นเพราะกินอาหารผัดน้ำมันต่อเนื่องเป็นประจำติดต่อกันหลาย ๆ ปี

น้ำมันจะเกาะผนังลำไส้ ทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ไปเลี้ยงสมองได้หรือ ดูดซึมได้น้อยกว่าที่ควร


วิธีการดูแลสมอง

  1. ขับถ่ายระหว่างเวลา 05.00 - 07.00 น.
  2. กิน อาหารเช้า ระหว่างเวลา 07.00 - 09.00 น. เพื่อให้เลือดรับสารอาหารไปเลี้ยงสมองและกินโยเกิรต์ นมผสมน้ำผึ้งและมะนาว
    ระหว่างเวลา 13.00 - 15.00 น. เพื่อเปลี่ยนขยะในลำไส้เล็กให้เป็นวิตามิน บี 12 แล้วส่งไปบำรุงสมอง
  3. ล้างระบบดูดซึมสารอาหารให้สะอาด(แนะนำเส้นใยอาหารที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูด-ซับ-ขับและล้างระบบขับถ่ายทั้งระบบ
    ได้อย่างสะอาด เพื่อการดูดซึมสารอาหารที่สมบูรณ์ 100% ด้วย "ไฟโตไฟเบอร์"
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น: