| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Dr.Mokan Medi-Hair Treatment ผลิตภัณฑ์ยับยั้งผมหลุดร่วง รักษาผมร่วง และเร่งการเกิดผมใหม่ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
จากตำนานอันเป็นที่กล่าวขานของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ว่าการนำรากของ SOUHAKUHI EKISU ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองที่ขึ้นอยู่ ตามธรรมชาติบริเวณริมทะเลสาป มาบทให้ละเอียด แล้วนำไปหมักด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม อันเป็นเทคนิคเฉพาะ แล้วนำ SOUHAKUHI EKISU ที่ได้มาทาบริเวณหนังศรีษะ ก็จะสามารถกัน และแก้ไขปัญหาผมบางได้ จากตำนานดังกล่าว จึงเป็นที่มา แห่งการค้นคว้าวิจัย จวบจนกระทั่งสามารถ ไขปริศนาแห่งความมหัศจรรย์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในราก SOUHAKHI EKISU ได้เป็นผล สำเร็จ และกลายเป็นตำนานอันเป็นจุดกำเนิดของ Dr.Mokan Medi-Hair Treatment ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ ในประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 17 ปี จวบจนถึงปัจจุบัน
Dr.Mokan Medi-Hair Treatment คืออะไร? เป็นผลิตภัณฑ์ยับยั้งผมหลุดร่วงและเร่งการเกิดผมใหม่ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 14 ปี 100% NATURAL, CHEMICAL FREE สกัดจากธรรมชาติ 100% จึงปราศจากสารเคมี
ดูรายละเอียดข้อมูล ดีอาร์โมแกน (Dr.Mokan) เพิ่มเติมได้ที่ได้ WEBSITE www.drmokan.com | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หนึ่งคำถาม อาจจะมีหลายคำตอบ ดังนั้นอย่าด่วนตัดสินใจ ก่อนที่คิดหาคำตอบให้รอบด้านเสียก่อน
วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
การรักษาผมร่วงด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสำหรับผู้ไม่มีเวลาไปหาหมอ
ข้อมูลจาก http://www.nidaskincosmetic.com/th/products/index.html
รักษาผมร่วงที่ Thai Hair Center Clinic ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดือนละ 940 บาท
ข้อมูลจาก http://www.thaihaircenter.com/
ผมร่วง ศีรษะล้าน ผมบาง คลีนิค รักษาผมร่วง ผมบาง ด้วยยาปลูกผม แชมพูแก้ผมร่วง ซีรั่มกระตุ้นรากผม เร่งขนอ่อน แก้ปัญหาผมร่วงด้วยหมอรักษาผมร่วงประสบการณ์กว่า 10 ปี แก้ปัญหาผมบางด้วยยาปลูกผม แชมพูป้องกันผมร่วง
Thai Hair Center Clinic : ปัญหาผมบาง ผมร่วง มีมากมายมาจากหลายสาเหตุมาก ผู้ที่มารับการรักษาปัญหาผมร่วงที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกส่วนใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีหลายสาเหตุประกอบกัน หมอรักษาผมร่วงของไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกจะทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัย วิเคราะห์หาสาเหตุต่างๆให้ เพื่อที่จะจ่ายยารักษาผมร่วง ให้ตรงกับสาเหตุที่น่าจะเป็นมากที่สุด การรักษาผมร่วงแก้ปัญหาผมบางของไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกเป็นประสบการณ์เฉพาะเท่านั้น ยาปลูกผมและแชมพูแก้ผมร่วงเป็นสูตรเฉพาะที่ทางไทยแฮร์ฯคิดค้นขึ้นจากประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการดูแลผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านและปัญหาผมบาง กรณีที่ทางแพทย์ดูแล้วเห็นว่าการรักษาผมร่วงผมบางของท่านอาจจะไม่ได้ ประโยชน์มากเราสามารถให้คำปรึกษาในการรักษาด้วยทางเลือกอื่นได้และประเมิน ค่าใช้จ่ายให้อย่างคร่าวๆได้และสามารถแนะนำแพทย์ให้ได้ เช่น ศัลยกรรมปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร ด้วยผมจริง
นอกจากจะดูแลแก้ปัญหาผมบางศีรษะล้านแล้ว ทีมงานวิชาการของไทยแฮร์ฯเองยังได้เขียนบทความเกี่ยวกับปัญหาผมร่วงผมบางและวิธีแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น เกือบทุกแง่มุมของปัญหาที่พบบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผมมันหรือหนังศีรษะมัน ปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม ปัญหาศีรษะล้านจากพันธุกรรม ปัญหาผมร่วงจากยา ปัญหาผมร่วงจากสารเคมี แนวทางการรักษาผมร่วงศีรษะล้านและสาเหตุของอาการผมร่วงแบบต่างๆไว้เพื่อให้ผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงผมบาง ได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูลความรู้และนำเคล็ดลับในการป้องกันผมร่วงเอาไปปฏิบัติตามเพื่อช่วยลดปัญหาผมร่วง เอง แบบง่ายๆในเบื้องต้นก่อน อย่างไรก็ตามก่อนที่ท่านจะตัดสินใจรักษาอาการผมร่วงศีรษะล้านของท่าน หากท่านมีปัญหาต่างๆที่ต้องการจะสอบถามทางทีมงานวิชาการยินดีจะไขข้อข้องใจ ต่างๆเกี่ยวกับผมร่วงให้ท่าน ปรึกษาปัญหาผมร่วง
ผมร่วงผมบาง รักษาได้ แก้ไขปัญหาผมร่วง การรักษาเป็นประสบการณ์เฉพาะ ด้วยสูตรยา แชมพูและซีรั่มบำรุงรากผมของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เอง
คลีนิกรักษาผมร่วง ผมบาง ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วย ยาปลูกผม สูตรของ หมอที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์เอง
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ไม่มีสาขาอื่น มีแห่งเดียวที่ พระราม 7 ใกล้สะพานปิ่นเกล้า ใกล้ ร.พ.ยันฮี
ผู้มารับบริการรักษารายใหม่ โปรดจองคิวตรวจล่วงหน้ากับหมอ 02-4460875 หรือ 085-8095990
(สามารถโทรจองคิวตรวจทางมือถือได้ จันทร์ - เสาร์ ช่วงเวลา 11.00 ถึง 18.00 น. )
Thai Hair Center Clinic : ไทยแฮร์เซ็นเตอร์คืออะไร
ไทยแฮร์เซนเตอร์เป็นคลีนิครักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์หรือผมบางจากฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้นและสาเหตุอื่นๆ รักษาโดยหมอแผนปัจจุบัน
ใช้การรักษาแบบผสมผสานทั้ง การ กินยาเพิ่มสารอาหารและวิตามินให้รากผม + ใช้แชมพูกระตุ้นรากผม + ซีรั่มหยอดหนังศรีษะเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมใหม่ เพื่อให้เส้นผมเดิมที่เล็ก เส้นผมจะใหญ่ขึ้นและเร่งให้เส้นผมยาวขึ้นเร็วกว่าเดิม(ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด 940 บาทต่อเดือน)
แนวทางการรักษา เป็นประสบการณ์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เท่านั้น ไม่มีสาขาที่อื่นใด
( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์)
ผู้ใดเหมาะสมกับการรักษาบ้าง ผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์รักษาได้หรือไม่
โดยทั่วไป 70 กว่าเปอร์เซนต์ของผู้ที่มารับการรักษาที่ไทยแฮร์เซนเตอร์ เป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ผมร่วงจากฮอร์โมนหรือผมบางจากกรรมพันธุ์ คือมียีนที่ทำให้รากผมตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชายมากกว่าคนปกติทำให้ผมที่ขึ้น ใหม่แต่ละรอบของการเจริญเติบโตของเส้นผม ผมจะค่อยๆบางลง เส้นผมเล็กลง ยาวได้ไม่มาก สุดท้ายถ้าปราศจากการรักษาหรือชะลอการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย ก็จะเปลี่ยนเป็นภาวะ ศีรษะล้านถาวร ปัจจัยที่ทำให้ การรักษาปัญหาผมร่วงผมบางในผู้ชายได้ผลเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษาคือ
- อายุ เมื่อมีสัญญาณเตือนว่าผมร่วงมากผิดปกติ หรือผมเริ่มบางจนมองเห็นหนังศีรษะ หากมารับการรักษาแต่เนิ่นๆ ผลการรักษาจะเป็นที่พึงพอใจมาก เรื่องอายุของผู้เข้ารับการรักษา จากการสำรวจของผู้ที่มารับการรักษาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์พบว่า ช่วงอายุที่ได้ผลดีอยู่ระหว่าง 24-40 ปี (เฉพาะในผู้ชายที่สาเหตุจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนเพศชาย) ส่วนอายุมากกว่านี้การรักษาจะได้ผลดีขึ้นมากน้อยเพียงใดอยู่ที่การตรวจรากผม หากยังพบว่ายังมีรากผมหลงเหลืออยู่ในตำแหน่งที่ผมบางจะได้ผลดีกว่า
- ตำแหน่งของผมบาง ผมบางในบริเวณกลางศีรษะ และ ผมบางในตำแหน่งมุมซ้ายและมุมขวา ของหน้าผาก ผลการรักษาจะดีกว่า
- ภาวะผิวหนังอักเสบหรือรากผมอักเสบ บริเวณที่ผมบางที่มีสาเหตุมาจากยีนหรือการตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชายผิดปกติไป ส่วนใหญ่แล้วจะมีความไวต่อการแพ้สัมผัสสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมได้ง่ายกว่า ปกติ จึงพบว่าคนไข้จำนวนไม่น้อยเลยที่มารักษาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์จะมีรากผมหรือ ผิวหนังอักเสบร่วม โดยในกลุ่มนี้แนวทางการรักษาเบื้องต้นจะต้องลดภาวะการอักเสบของผิวหนังศีรษะให้ได้ก่อนเพื่อให้การรักษาหยุดผมร่วงหรือการกระตุ้นรากผมได้ผลดีขึ้นและเร็วขึ้น
- หนังศีรษะมันหรือผมมัน มากกว่าร้อยละ 70 ของผู้มารักษาเรื่องผมร่วงที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์จะมีหนังศีรษะมันหรือผมมันร่วมด้วย เรื่องนี้เป็นอุปสรรคอย่างมากในการรักษากระตุ้นให้ขนอ่อนขึ้นและยาวเหมือน เส้นผมปกติ เนื่องจากไขมันที่สร้างจากต่อมไขมันบริเวณโดยรอบของรากผม เมื่อไม่มีการชะล้างคราบไขมันให้ออกอย่างเพียงพอ ก็จะเกาะก่อตัวจับกันเป็นก้อนไขมันแข็งและไปกดเอารากผมซึ่งจะเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย แนวทางการรักษาเรื่องหนังศีรษะมันจึงจะต้องทำไปพร้อมๆกับการรักษากระตุ้นขนอ่อนให้เกิดขึ้น หากปัญหาผมมันไม่ ดีขึ้นการกระตุ้นขนอ่อนที่เกิดขึ้นใหม่มักไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากขน อ่อนที่ยาวขึ้นไม่เท่าไหร่ก็จะร่วงหลุดไปทำให้เสียโอกาสในการกระตุ้นให้ขน อ่อนยาวขึ้นเหมือนเส้นผมปกติ
นอกจากภาวะศีรษะล้านในผู้ชายแล้ว ปัญหาผมร่วงหรือปัญหาผมบางในผู้หญิง ยังพอพบได้ ประมาณ 5-10% ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ผลการรักษาปัญหาผมบาง ผมเส้นเล็กในผู้หญิงจึงจะง่ายกว่าในผู้ชายมาก โดยอ้างอิงข้อมูลจากสถิติการรักษาของผู้ที่มารับการรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ทั้งหญิงและชายรวมกัน ที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ลักษณะเฉพาะตัวของภาวะนี้ในผู้หญิงที่จะสังเกตได้ง่ายคือ
- ผมร่วงเป็นหย่อม หรือ ผมร่วงทั้งศรีษะ โดยที่มักมีสาเหตุของอาการผมร่วงมาจาก โรคทางกายที่ซ้อนเร้นอยู่ เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป, ผมร่วงจากการมีไข้สูงมาก่อนเช่นหลังเป็นไข้ไทฟอยด์ หรือ ผมร่วงหลังคลอดบุตร ผมร่วงจากการแปรปรวนไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนเพศหญิงและชาย เช่น ผมร่วงจากการกินยาคุมกำเนิด
- ผมร่วงทั่วศีรษะ พบร่วมกับอาการทางกายอื่นๆ เช่น ภาวะซีด ปวดเมื่อยตามข้อและกระดูก มีความดันโลหิตสูง มีอาการท้องมาน เหลือง(ดีซ่าน) ตับม้ามโต หรือในปัสสาวะมีโปรตีนไข่ขาวออกมามากกว่าปกติ ในผู้หญิง ปัญหาผมร่วงที่พบในโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE - Systemic Lupus Erythematosus) ยังคงพบได้บ่อยเช่นกัน
การรักษาได้ผลมากน้อยเพียงใด
จากการสำรวจผู้ป่วยชาย 100 ราย ช่วงอายุ 24-55 ปี ของไทยแฮร์เซนเตอร์ ( ช่วงเวลา กันยายน 2551- เมษายน 2552 )
พบว่าอัตราความพึงพอใจของการรักษาจะมากในผู้ที่อายุน้อย
- อายุ 24-30 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 85 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 95% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ 31-40 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 75 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 87% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ 41-50 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 65 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ มากกว่า 50 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 62 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 72% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการรักษา
วิธีการรักษาของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เป็นวิธีการรักษาแบบ ผสมผสาน โดยใช้วิธีมาตรฐานผสมผสานกับแนวทางการรักษาที่ได้ผลตามหลักการพื้นฐานของนา โนเทคโนโลยี คือการเพิ่มออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมให้กับ รากผม วิธีการนี้เป็นวิธีการใหม่เป็นหนทางแก้ผมร่วง ลดอุบัติการณ์ของผมบางมากๆในคนที่มียีนศีรษะล้านอยู่ในตัว โดยในต่างประเทศแนวทางการรักษาวิธีนี้ได้ผลเป็นที่พึงพอใจมากและความปลอดภัย ก็สูงมากเช่นกัน
สูตรยารักษาผมร่วง ลดปัญหาผมบาง ของไทยแฮร์ฯ ประกอบด้วย
1.ยารับประทาน กินยาวันละ 3 เม็ด ครั้งเดียวพร้อมกัน มีทั้งยากระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ (ความเข้าใจของคนทั่วไปเรียก ยาปลูกผม), ยาเพิ่มความแข็งแรงให้รากผมเดิมทำให้ผมร่วงน้อยลง และยาที่เพิ่มสารอาหารที่สำคัญและออกซิเจนให้รากผมหรือวิตามินผม
2.แชมพูป้องกันผมร่วง สูตรของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ เป็นแชมพูยับยั้งฮอร์โมน DHT เฉพาะที่หนังศีรษะและกระตุ้นรากผมใหม่ มีทั้งสูตรแชมพูสำหรับผมมันและแชมพูแก้ผมร่วงสำหรับหนังศีรษะแห้ง ใช้ได้ 1 เดือน
3.ซีรั่มหยอดกระตุ้นรากผม สูตรของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ เป็นการเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น เพราะปัญหาของการรักษาอย่างหนึ่งคือเมื่อขนอ่อนขึ้นมาแล้วมักจะยาวได้ไม่มาก ก็จะหลุดร่วงไป โดยให้หยดยาเร่งผมยาวบริเวณที่ผมบางก่อนนอนวันละครั้ง ซีรั่มของไทยแฮร์ฯ นี้มีหลายสูตรให้เลือกใช้มาก โดยหมอจะเป็นผู้สั่งจ่ายให้ตามวิธีการรักษาเฉพาะของไทยแฮร์ฯ ในแต่ละคนจะได้ซีรั่มไม่เหมือนกันแล้วแต่สภาพปัญหาของหนังศีรษะที่พบร่วม เช่น มีสะเก็ดรังแค? ผิวหนังอักเสบคัน? ขณะมารักษามีผมร่วงมากอยู่หรือไม่? เป็นต้น กรณีที่มีการอักเสบของหนังศีรษะอย่างมาก หรือมีรังแคค่อนข้างมาก ทางไทยแฮร์ฯ ก็จะจ่ายแชมพูรักษาหนังศีรษะอักเสบ ขจัดรังแค ซึ่งเป็นแชมพูความเข้มข้นสูง ให้เสริมกับแชมพูหลักโดยที่ไม่ต้องใช้ซีรั่มหยอด เมื่อรังแคและหนังศีรษะอักเสบหายดีแล้วจึงกลับมาใช้ซีรั่มกระตุ้นรากผมให้ งอกเร็วและทำให้ผมร่วงน้อยลง
วิธีการรักษาทั้งหมดข้างต้นจะใช้ยาได้เป็นเวลา 1 เดือนด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด 940 บาทต่อเดือน
โดยทั่วไประยะเวลาการรักษาอย่างน้อย 6 เดือนจึงจะได้ผลเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา
(ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นอย่างอื่นนอกเหนือจากค่ายารักษา ค่าตรวจของแพทย์หรือค่าวิเคราะห์เส้นผมไม่เสีย โดยแพทย์ตรวจวิเคราะห์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น)
จะต้องกินยารักษาผมร่วงไปตลอดชีวิตหรือไม่ (ผมร่วงที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และไม่ใช่จากกรรมพันธุ์)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่กังวลมาก การจะต้องกินยารักษาผมร่วงไปตลอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการผม ร่วงผมบาง เช่น ถ้าเป็นจากโรคผิวหนังที่สามารถรักษาหายขาดได้ ก็ไม่จำเป็นต้องกินยาไปตลอด หรือเป็นจากภาวะขาดสารอาหารและวิตามิน หรือโลหิตจาง เมื่อให้ยาทดแทนสิ่งที่ร่างกายขาด จนเส้นผมขึ้นมาปกติและอาการร่วงของเส้นผมอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็สามารถหยุดยา ได้ แต่กลุ่มใหญ่ที่มารักษา ที่เป็นผู้ชายและแพทย์ลงความเห็นแล้วว่าเป็นผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ กลุ่มนี้ ผู้ที่จะทำการรักษา ต้องยอมรับก่อนว่า ผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์รักษาให้หายขาดไม่ได้ การใช้ยารักษาเป็นการประคองให้ผมคงสภาพอยู่ในลักษณะเส้นใหญ่ขึ้น ความหนาแน่นของเส้นผมมากขึ้น และรากผมไม่ฝ่อไปแบบถาวร เพราะฉะนั้น ก่อนจะทำการรักษาต้องยอมรับก่อนว่า จำเป็นจะต้องใช้ยารักษาผมร่วงผมบางไปตลอด ถ้าวิตกเรื่องบุคลิกภาพ เพื่อคงสภาพเส้นผมให้อยู่บนหนังศีรษะได้นานๆ เมื่อหยุดยาเส้นผมก็จะเริ่มกลายสภาพไปตามกำหนดของกรรมพันธุ์ ส่วนศีรษะจะล้านเร็วหรือล้านช้ายังมีปัจจัยอื่นเข้ามากำหนด เช่น สภาวะโภชนาการของแต่ละคน, ภาวะพร่องวิตามินของแต่ละคน, อุปนิสัยการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะของแต่ละคน, ความเครียด, ความวิตกกังวลเป็นนิจ, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, อายุที่มากขึ้นมีการเสื่อมของเซลล์รากผมร่วม ต่างๆเหล่านี้เป็นตัวเร่งเร้าให้ภาวะผมร่วง ผมบาง จนศีรษะล้านในแต่ละคนไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามแม้นว่า ผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ จำเป็นต้องใช้ยากินไปตลอด แต่ก็ยังมีเทคนิคในการปรับลดขนาดของยากิน ซึ่งแพทย์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ใช้อยู่ มีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้
* ความเป็นจริงของคนที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์เวลามารักษามัก จะมีสาเหตุอื่นๆผสมอยู่ด้วย ทำให้อาการผมร่วงผมบางมีมากกว่าความเป็นจริงไป ที่พบร่วมบ่อยคือ ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ต่อมไขมันอักเสบเรื้อรังที่หนังศีรษะ แพ้สารเคมีกลุ่ม น้ำยาย้อมผม น้ำยาโกรกผม น้ำยายืดผม หรือ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม อาทิ แว็กซ์ เจล สเปรย์ เพราะฉะนั้นเวลาจ่ายยารักษา จึงมักจะรักษาภาวะผิดปกติที่พบร่วมไปเลยในคราวเดียว และแนะนำให้ผู้ป่วยหยุดใช้สารเคมีกับหนังศีรษะแบบสิ้นเชิง ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
* การให้ยาในเดือนที่ 4 เป็นเต้นไป แพทย์จะปรับยาเสริมกลุ่มวิตามินสำหรับเส้นผมเสริมเข้าไปในแต่ละคน ซึ่งจะได้ต่างกัน แล้วแต่แพทย์ประเมินว่าขาดวิตามินตัวไหน
* การให้ยาในเดือนที่ 9 เป็นต้นไป จะเริ่มให้ยาที่ช่วยทำให้เส้นผมใหญ่ขึ้น เพิ่มสารอาหารและออกซิเจนให้รากผม
* โดยเฉลี่ยการรักษาเมื่อครบประมาณ 15 เดือนแพทย์จะเริ่มปรับยาลดลงเป็น วันเว้นวัน หรือ วันเว้นสองวัน แล้วดูว่ายังสามารถคงสภาพเส้นผมได้อยู่หรือไม่ ผมกลับมาร่วงและบางลงอีกหรือไม่
การใช้เทคนิคปรับลดขนาดยาข้างต้น เพื่อให้สามารถคงสภาพเส้นผมได้ แพทย์จะเป็นผู้ปรับเมื่อครบ 15 เดือน หรือในบางรายมีการตอบสนองต่อยารักษาดีมาก ก่อนจะครบ 15 เดือน ผมขึ้นมาดกมาก และมีขนาดเส้นใหญ่มาก ความหนาแน่นของเส้นผมมีมากเป็นที่พึงพอใจของผู้ป่วยแล้ว แพทย์ก็จะปรับลดยาลงทันที นโยบายของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ไม่มีนโยบายที่จะให้ผู้เข้ารับการรักษากินยาไปตลอด แต่จะเสริมความเข้าใจเรื่องหลักโภชนาการที่ดีสำหรับเส้นผม พร้อมแนะนำวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ ซึ่งจะช่วยยืดอายุของเส้นผมให้นานที่สุด ก่อนจะกลับมามีผมร่วงและผมบางอีกครั้ง และจะทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้ารับการรักษาว่า ภาวะผมร่วงผมบางจาก กรรมพันธุ์ทำให้หายขาดถาวรไม่ได้ เป้าหมายที่รักษาคือ ทำให้ดูดีขึ้น แล้วประคองไว้ให้นานที่สุด ภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ไม่มีอันตรายใดๆ ไม่รักษาก็ได้ หากไม่วิตกเรื่องบุคลิกภาพ หากจะทำการรักษาต้องยอมรับ ความเป็นจริงเรื่องการใช้ยารักษาไปตลอด หรือใช้ยาไปเป็นช่วงๆที่มีปัญหาพร้อมเสริมโภชนาการที่ดีไปพร้อมกัน
การใช้ยากินรักษาผมร่วงไปนานๆจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ จะเป็นอันตรายต่อ ตับไตหรือไม่
จากประสบการณ์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีผลข้างเคียงอันตรายรุนแรงใดๆเลย มีแต่ผลข้างเคียงเล็กๆน้อย เหมือนกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับการกินยาทั่วๆไป เช่น อาการคันตามตัว, อาการบวมที่เท้าและเปลือกตา, อาการปวดตึงที่หนังศีรษะ ซึ่งอาการข้างเคียงจากยาที่กล่าวมาส่วนใหญ่หายไปเองไม่จำเป็นต้องหยุดยาและ เกือบทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อใช้ยาภายใน 3-5 วันแรก
อย่างไรก็ตามยาทุกชนิด ไม่ว่าจะใช้รักษาอะไร ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้ แต่เท่าที่มีข้อมูลทางวิชาการ ของยาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ใช้อยู่ ยังไม่เคยมีผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆในระยะยาว หากใช้ยาภายใต้การควบคุมและปรับเปลี่ยนยาเมื่อมีผลข้างเคียงที่ไม่พึง ประสงค์เกิดขึ้นและจะต้องกินยาในปริมาณที่กำหนด ไม่กินมากกว่าที่กำหนด จากประสบการณ์ของไทยแฮร์ฯ เองมีคนไข้บางคนที่ใช้ยามาสักระยะแล้วไปตรวจสุขภาพ มาพบว่ามีการทำงานของเอ็นไซม์ตับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะจากสาเหตุใดๆก็ตาม เช่น ระหว่างกินยาแล้วเกิดมีอาการไวรัสตับอักเสบร่วมโดยบังเอิญหรือเกิดมีอาการ ตับอักเสบจากการดื่มสุรา ในกลุ่มนี้เราก็แนะนำให้หยุดยาทันทีและเมื่อติดตามผู้ป่วยไปสักระยะ 3-4 เดือน ก็จะพบว่า การทำงานของเอ็นไซม์ตับก็กลับมาเป็นปกติ ซึ่งการที่มีเอ็นไซม์การทำงานของตับเพิ่มสูงขึ้นก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าเกิดจากยารักษาผมร่วงหรือไม่ เพราะแม้แต่ยาที่ปลอดภัยมากๆ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) ซึ่งใช้เป็นยาแก้ปวดลดไข้ หากกินในปริมาณที่มากๆ พร้อมกันหรือกินต่อเนื่องกันหลายวัน ก็ยังพบว่าทำให้มีเอ็นไซม์ตับเพิ่มขึ้นได้อย่างมากๆ เช่นกัน
มีผู้กล่าวไว้ว่าภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ถึงแม้จะไม่ใช่โรคทางกายแต่ก็ สร้างบาดแผลทางใจให้ผู้ที่เป็นอยู่มากทีเดียว ผู้ที่เป็นจะมีความกังวล รู้สึกไม่มั่นใจตัวเอง จนบางคนมีปัญหาด้านสภาวะจิตใจอย่างรุนแรง ถ้าเปรียบเทียบกับโรคทางกาย เช่นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ที่จะต้องใช้ยากินรักษาไปตลอดชีวิต ก็นับว่าภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ก็น่าจะจัดอยู่ว่าเป็นภาวะที่สร้างให้ เกิดโรคทางจิตใจ การจะใช้ยาไปตลอดก็นับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง
สรุปได้ว่าปัจจุบันยาที่ใช้รักษาผมร่วง หากกินในปริมาณที่กำหนดแล้วนับว่ามีความปลอดภัยสูงในระยะยาว แต่การจะกินยาต่อเนื่องเกินกว่า 2 ปี ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ไม่แนะนำ เหตุผลที่ไม่แนะนำให้กินยาต่อเนื่องเกิน 2 ปี เนื่องจาก เส้นผมคนเราโดยเฉลี่ยจะมีอายุประมาณ 2 ปี ถ้าใช้ยามาประมาณ 2 ปีแล้ว เราคิดว่ารากผมที่ขึ้นใหม่เกือบทั้งหมดบนหนังศีรษะได้รับการควบคุมไม่ให้ถูก ทำลายจากอิทธิผลของฮอร์โมน DHT เรียบร้อยแล้ว ผมจะเส้นใหญ่ดีแล้ว ก็ควรจะหยุดยาได้ เมื่อเส้นผมเริ่มเล็กลงในอนาคตจึงค่อยเริ่มกลับมากินยาใหม่ ถึงแม้ว่าการรักษาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์จะต้องใช้ยาตลอดเพื่อคงสภาพเส้น ผมให้เส้นใหญ่และมีความหนาแน่นใกล้เคียงปกติ หากหยุดยาในขณะที่เส้นผมยังมีเส้นไม่ใหญ่พอ การกลับมามีผมร่วง ผมบางอีกครั้งจะเร็วใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน หลังหยุดยา แต่หากใช้ยาไปจนเส้นผมมีขนาดใหญ่และความหนาแน่นเป็นที่พอใจแล้ว ค่อยๆปรับลดยาลง พร้อมกับเสริมโภชนาการและวิตามินที่สำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้น ผมไปพร้อมๆกัน จะสามารถยืดเวลาที่จะกลับมามีผมร่วงได้นาน บางคนได้ถึงปีครึ่ง หลังจากหยุดยากินแบบสิ้นเชิง
ในบางคนที่มีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยาก็จะใช้วิธีกินยาเป็นช่วงๆ สลับกับการเสริมโภชนาการและวิตามิน เช่น กินยา 5-6 เดือน พอผมกลับมาดูดีมีความหนาแน่นของผมเป็นที่พอใจแล้วก็หยุดยา หันกลับมาเสริมวิตามินและโภชนาการดีๆ การทำแบบนี้เพื่อความสบายใจและลดการสัมผัสยาเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ ซึ่งก็นับว่าได้ผลดี ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์จะต้อง ทำใจยอมรับล่วงหน้าก่อนเลยว่าวงจรของอาการผมร่วงมันเป็นเช่นนี้ เพราะกรรมพันธุ์หรือยีนในร่างกายมันเป็นตัวกำหนดเราจะเอาชนะมันแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดไม่ได้ ได้เพียงแต่ประคองด้วยการกินยาและหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆที่จะทำให้ผมร่วงมาก ขึ้น โดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้กับหนังศีรษะและเส้นผม
ถ้ากินยารักษาผมร่วงแล้วหยุดยาก่อนจะทำให้หัวล้านเร็วกว่าปกติหรือไม่
เรื่องนี้ยังเป็นที่เข้าใจผิดกันมากและบอกปากต่อปากกันมาจนฟังดูแล้วเหมือนกับว่าการกินยารักษาผมร่วงจะทำให้หัวล้านเร็วกว่าปกติ
ความเข้าใจผิด : การหยุดยาจะไปเร่งให้ศีรษะล้านเร็วหรือมีผมร่วงมากกว่าปกติ
ความจริง : ความเป็นจริงก็คือยารักษาผมร่วงไม่ได้ไปเร่งให้ศีรษะล้านเร็วกว่าปกติหรือผมร่วงมากกว่าปกติเมื่อหยุดกินยา
การร่วงของผมหรือศีรษะจะล้านเร็วหรือช้าขึ้นกับปัจจัยอื่นอย่างที่กล่าวมา ข้างต้น ยารักษาผมร่วงจะช่วยคงสภาพให้เส้นผมใหญ่และผมร่วงน้อยลงตราบเท่าที่ยังกินยา รักษาอยู่ (กรณีที่สาเหตุของผมร่วงผมบางมาจากกรรมพันธุ์) เมื่อหยุดกินยาทุกอย่างจะค่อยๆ กลับสู่สภาวะความเป็นจริงของคนคนนั้นแต่จะค่อยเป็นค่อยไป ถ้ากินยารักษามาจนเส้นผมใหญ่ดีแล้วการกลับสู่สภาวะของความเป็นจริงจะช้า นั่นคือยืดเวลาที่จะมีผมบาง ศีรษะล้านออกไปได้นานกว่าการกินยาไปเพียง 4-5 เดือนแล้วหยุดยาทันที เมื่อหยุดยาความหนาแน่นของเส้นผมจะกลับสู่ความเป็นจริงที่ควรจะเป็นเหมือน กับขณะที่ไม่ได้กินยา
ตัดสินใจจะรับการรักษาด้วยยาจะทำอย่างไร ( แผนที่ไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
หากตัดสินใจจะเข้ารับการรักษาโปรดโทรจองคิวก่อนล่วงหน้า โดยสามารถจองคิวล่วงหน้าได้ ก่อนอย่างน้อย 1 วัน ไม่รับจองคิวล่วงหน้าเกินกว่า 1 วันทำการ สามารถจองคิวตรวจได้ที่เบอร์โทร02-4460875 (ช่วงเวลา 11.00 - 18.00 น.) หรือ โทรสอบถามรายละเอียดที่ 085-8095990 พร้อมกับสอบถามเส้นทางมายังคลีนิก ดูรายละเอียดการนัดแพทย์ หากท่านไม่มั่นใจว่าการรักษาภาวะผมบางของท่านจะได้ผลมากน้อยเพียงใดท่าน สามารถจองคิวเพื่อมาปรึกษาแพทย์ก่อนได้ หากแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าการรักษาของท่านผลการรักษาจะได้ผลน้อย แพทย์จะแจ้งให้ท่านทราบ หากไม่มีการจ่ายยารักษาผมร่วงใดๆ ท่านก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย
หากแพทย์วิเคราะห์และแจ้งให้ท่านทราบแล้วว่าผลการรักษาน่าจะเป็นที่พึงพอใจ แพทย์ก็จะจ่ายยาให้ท่านพร้อมแชมพูป้องกันและลดผมร่วง และซีรั่มเร่งผมยาว โดยท่านเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรับยาไปกี่เดือน โดยทั่วไปการใช้ยารักษาผมบาง ต่อเนื่องประมาณ 3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผลว่า ผมหนาและผมดกขึ้น โดยท่านจะเสียค่าใช้จ่ายตามปริมาณยาที่รับไป ในอัตรา 940 บาทต่อเดือน โดยแพทย์จะใช้เวลาในการตรวจผู้ป่วย 1 ราย ประมาณ 10-15 นาที
อยู่ต่างจังหวัดจะมารับการรักษาได้อย่างไร ( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
การรักษาของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ไม่มีการส่ง ยาปลูกผม แชมพูปลูกผม หรือซีรั่มปลูกผมทางไปรษณีย์ ผู้ที่จะมารับการรักษาทุกรายต้องเดินทางมาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ด้วยตัวเองเพื่อทำทะเบียนประวัติ - พบแพทย์ - รับยา ตามหลักมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพเวชกรรมทุกประการ หากท่านมาจากต่างจังหวัดท่านไม่ได้มีโอกาสเข้ามากรุงเทพฯได้บ่อยๆ แพทย์สามารถจะจ่ายยาให้ท่านได้ 3 - 5 เดือน หลังจากนั้นเมื่อยาหมดท่านควรมาพบแพทย์เพื่อดูผลการรักษาและรับยารักษาผม ร่วงเพิ่มต่อไป
* หมายเหตุ : การใช้ยาปลูกผมและแชมพูแก้ผมร่วงจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้คำแนะนำ ส่วนปัญหาหรือข้อข้องใจเกี่ยวกับการใช้ยาปลูกผมต่อเนื่องระยะยาวแพทย์จะชี้ แจงขณะวิเคราะห์ตรวจโรค หรือหากท่านสงสัยประการใดแพทย์ยินดีให้คำแนะนำ
* หมายเหตุ : เส้นทางมายังคลินิก ตั้งอยู่ที่ 27/298-300 หมู่ที่ 5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ติดโลตัสวัดจันทร์ ใกล้ ร.พ.ยันฮี, ใกล้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต พระราม 7 เขตบางกรวย, ซอยข้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต บางกรวย นนทบุรี 11130 คลินิกติดกับโลตัสวัดจันทร์ ( ดูแผนที่ - ดู Google Map ) เบอร์โทร 02-4460875
เวลาเปิดทำการ ( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
จ. - ศ. 11.00 น. - 18.00 น.
ส. 10.00 น. - 18.00 น.
อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - หยุดทำการ
โปรดโทรจองคิวตรวจล่วงหน้ากับหมอรักษาผมร่วง 02-4460875 หรือ 085-8095990
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ รักษาผมร่วง แก้ปัญหาผมร่วง แก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ปลูกผม
ด้วย ยาปลูกผม + แชมพูรักษาผมร่วง + โลชั่นเร่งสร้างรากผม
เพื่อผมใหม่ที่ขึ้นดกหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดือนละ 940 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นอย่างอื่นใด
ปรึกษาปัญหาผมร่วง การรักษาผมร่วง ผมบางและแนวทางวิธีการฟื้นฟูรากผม
ให้คำปรึกษาเชิงวิชาการ ฟรี โทร 085-8095990 (เวลา 11.00 - 18.00 น.)
จองคิวการตรวจกับหมอที่รักษา โทร 02-4460875 (เวลา 11.00 - 18.00 น.)
( ดูแผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
สถานที่ตั้ง ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ Thai Hair Center Clinic ศูนย์ดูแลแก้ปัญหาผมร่วงผมบางอย่างมืออาชีพ
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ Thai Hair Center Clinic
27/298-300 หมู่ที่ 5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ติดโลตัสวัดจันทร์ ใกล้ ร.พ.ยันฮี
ใกล้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต พระราม 7 เขตบางกรวย ซอยข้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
บางกรวย นนทบุรี 11130
โทร 02-446 0875
ผมร่วง ศีรษะล้าน ผมบาง คลีนิค รักษาผมร่วง ผมบาง ด้วยยาปลูกผม แชมพูแก้ผมร่วง ซีรั่มกระตุ้นรากผม เร่งขนอ่อน แก้ปัญหาผมร่วงด้วยหมอรักษาผมร่วงประสบการณ์กว่า 10 ปี แก้ปัญหาผมบางด้วยยาปลูกผม แชมพูป้องกันผมร่วง
Thai Hair Center Clinic : ปัญหาผมบาง ผมร่วง มีมากมายมาจากหลายสาเหตุมาก ผู้ที่มารับการรักษาปัญหาผมร่วงที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกส่วนใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีหลายสาเหตุประกอบกัน หมอรักษาผมร่วงของไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกจะทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัย วิเคราะห์หาสาเหตุต่างๆให้ เพื่อที่จะจ่ายยารักษาผมร่วง ให้ตรงกับสาเหตุที่น่าจะเป็นมากที่สุด การรักษาผมร่วงแก้ปัญหาผมบางของไทยแฮร์เซ็นเตอร์คลีนิกเป็นประสบการณ์เฉพาะเท่านั้น ยาปลูกผมและแชมพูแก้ผมร่วงเป็นสูตรเฉพาะที่ทางไทยแฮร์ฯคิดค้นขึ้นจากประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการดูแลผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านและปัญหาผมบาง กรณีที่ทางแพทย์ดูแล้วเห็นว่าการรักษาผมร่วงผมบางของท่านอาจจะไม่ได้ ประโยชน์มากเราสามารถให้คำปรึกษาในการรักษาด้วยทางเลือกอื่นได้และประเมิน ค่าใช้จ่ายให้อย่างคร่าวๆได้และสามารถแนะนำแพทย์ให้ได้ เช่น ศัลยกรรมปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร ด้วยผมจริง
นอกจากจะดูแลแก้ปัญหาผมบางศีรษะล้านแล้ว ทีมงานวิชาการของไทยแฮร์ฯเองยังได้เขียนบทความเกี่ยวกับปัญหาผมร่วงผมบางและวิธีแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น เกือบทุกแง่มุมของปัญหาที่พบบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผมมันหรือหนังศีรษะมัน ปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม ปัญหาศีรษะล้านจากพันธุกรรม ปัญหาผมร่วงจากยา ปัญหาผมร่วงจากสารเคมี แนวทางการรักษาผมร่วงศีรษะล้านและสาเหตุของอาการผมร่วงแบบต่างๆไว้เพื่อให้ผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงผมบาง ได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูลความรู้และนำเคล็ดลับในการป้องกันผมร่วงเอาไปปฏิบัติตามเพื่อช่วยลดปัญหาผมร่วง เอง แบบง่ายๆในเบื้องต้นก่อน อย่างไรก็ตามก่อนที่ท่านจะตัดสินใจรักษาอาการผมร่วงศีรษะล้านของท่าน หากท่านมีปัญหาต่างๆที่ต้องการจะสอบถามทางทีมงานวิชาการยินดีจะไขข้อข้องใจ ต่างๆเกี่ยวกับผมร่วงให้ท่าน ปรึกษาปัญหาผมร่วง
ผมร่วงผมบาง รักษาได้ แก้ไขปัญหาผมร่วง การรักษาเป็นประสบการณ์เฉพาะ ด้วยสูตรยา แชมพูและซีรั่มบำรุงรากผมของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เอง
คลีนิกรักษาผมร่วง ผมบาง ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วย ยาปลูกผม สูตรของ หมอที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์เอง
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ไม่มีสาขาอื่น มีแห่งเดียวที่ พระราม 7 ใกล้สะพานปิ่นเกล้า ใกล้ ร.พ.ยันฮี
ผู้มารับบริการรักษารายใหม่ โปรดจองคิวตรวจล่วงหน้ากับหมอ 02-4460875 หรือ 085-8095990
(สามารถโทรจองคิวตรวจทางมือถือได้ จันทร์ - เสาร์ ช่วงเวลา 11.00 ถึง 18.00 น. )
Thai Hair Center Clinic : ไทยแฮร์เซ็นเตอร์คืออะไร
ไทยแฮร์เซนเตอร์เป็นคลีนิครักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์หรือผมบางจากฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้นและสาเหตุอื่นๆ รักษาโดยหมอแผนปัจจุบัน
ใช้การรักษาแบบผสมผสานทั้ง การ กินยาเพิ่มสารอาหารและวิตามินให้รากผม + ใช้แชมพูกระตุ้นรากผม + ซีรั่มหยอดหนังศรีษะเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมใหม่ เพื่อให้เส้นผมเดิมที่เล็ก เส้นผมจะใหญ่ขึ้นและเร่งให้เส้นผมยาวขึ้นเร็วกว่าเดิม(ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด 940 บาทต่อเดือน)
แนวทางการรักษา เป็นประสบการณ์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เท่านั้น ไม่มีสาขาที่อื่นใด
( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์)
ผู้ใดเหมาะสมกับการรักษาบ้าง ผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์รักษาได้หรือไม่
โดยทั่วไป 70 กว่าเปอร์เซนต์ของผู้ที่มารับการรักษาที่ไทยแฮร์เซนเตอร์ เป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ผมร่วงจากฮอร์โมนหรือผมบางจากกรรมพันธุ์ คือมียีนที่ทำให้รากผมตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชายมากกว่าคนปกติทำให้ผมที่ขึ้น ใหม่แต่ละรอบของการเจริญเติบโตของเส้นผม ผมจะค่อยๆบางลง เส้นผมเล็กลง ยาวได้ไม่มาก สุดท้ายถ้าปราศจากการรักษาหรือชะลอการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย ก็จะเปลี่ยนเป็นภาวะ ศีรษะล้านถาวร ปัจจัยที่ทำให้ การรักษาปัญหาผมร่วงผมบางในผู้ชายได้ผลเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษาคือ
- อายุ เมื่อมีสัญญาณเตือนว่าผมร่วงมากผิดปกติ หรือผมเริ่มบางจนมองเห็นหนังศีรษะ หากมารับการรักษาแต่เนิ่นๆ ผลการรักษาจะเป็นที่พึงพอใจมาก เรื่องอายุของผู้เข้ารับการรักษา จากการสำรวจของผู้ที่มารับการรักษาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์พบว่า ช่วงอายุที่ได้ผลดีอยู่ระหว่าง 24-40 ปี (เฉพาะในผู้ชายที่สาเหตุจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนเพศชาย) ส่วนอายุมากกว่านี้การรักษาจะได้ผลดีขึ้นมากน้อยเพียงใดอยู่ที่การตรวจรากผม หากยังพบว่ายังมีรากผมหลงเหลืออยู่ในตำแหน่งที่ผมบางจะได้ผลดีกว่า
- ตำแหน่งของผมบาง ผมบางในบริเวณกลางศีรษะ และ ผมบางในตำแหน่งมุมซ้ายและมุมขวา ของหน้าผาก ผลการรักษาจะดีกว่า
- ภาวะผิวหนังอักเสบหรือรากผมอักเสบ บริเวณที่ผมบางที่มีสาเหตุมาจากยีนหรือการตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชายผิดปกติไป ส่วนใหญ่แล้วจะมีความไวต่อการแพ้สัมผัสสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมได้ง่ายกว่า ปกติ จึงพบว่าคนไข้จำนวนไม่น้อยเลยที่มารักษาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์จะมีรากผมหรือ ผิวหนังอักเสบร่วม โดยในกลุ่มนี้แนวทางการรักษาเบื้องต้นจะต้องลดภาวะการอักเสบของผิวหนังศีรษะให้ได้ก่อนเพื่อให้การรักษาหยุดผมร่วงหรือการกระตุ้นรากผมได้ผลดีขึ้นและเร็วขึ้น
- หนังศีรษะมันหรือผมมัน มากกว่าร้อยละ 70 ของผู้มารักษาเรื่องผมร่วงที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์จะมีหนังศีรษะมันหรือผมมันร่วมด้วย เรื่องนี้เป็นอุปสรรคอย่างมากในการรักษากระตุ้นให้ขนอ่อนขึ้นและยาวเหมือน เส้นผมปกติ เนื่องจากไขมันที่สร้างจากต่อมไขมันบริเวณโดยรอบของรากผม เมื่อไม่มีการชะล้างคราบไขมันให้ออกอย่างเพียงพอ ก็จะเกาะก่อตัวจับกันเป็นก้อนไขมันแข็งและไปกดเอารากผมซึ่งจะเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย แนวทางการรักษาเรื่องหนังศีรษะมันจึงจะต้องทำไปพร้อมๆกับการรักษากระตุ้นขนอ่อนให้เกิดขึ้น หากปัญหาผมมันไม่ ดีขึ้นการกระตุ้นขนอ่อนที่เกิดขึ้นใหม่มักไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากขน อ่อนที่ยาวขึ้นไม่เท่าไหร่ก็จะร่วงหลุดไปทำให้เสียโอกาสในการกระตุ้นให้ขน อ่อนยาวขึ้นเหมือนเส้นผมปกติ
นอกจากภาวะศีรษะล้านในผู้ชายแล้ว ปัญหาผมร่วงหรือปัญหาผมบางในผู้หญิง ยังพอพบได้ ประมาณ 5-10% ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ผลการรักษาปัญหาผมบาง ผมเส้นเล็กในผู้หญิงจึงจะง่ายกว่าในผู้ชายมาก โดยอ้างอิงข้อมูลจากสถิติการรักษาของผู้ที่มารับการรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ทั้งหญิงและชายรวมกัน ที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ลักษณะเฉพาะตัวของภาวะนี้ในผู้หญิงที่จะสังเกตได้ง่ายคือ
- ผมร่วงเป็นหย่อม หรือ ผมร่วงทั้งศรีษะ โดยที่มักมีสาเหตุของอาการผมร่วงมาจาก โรคทางกายที่ซ้อนเร้นอยู่ เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษทำให้มีฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป, ผมร่วงจากการมีไข้สูงมาก่อนเช่นหลังเป็นไข้ไทฟอยด์ หรือ ผมร่วงหลังคลอดบุตร ผมร่วงจากการแปรปรวนไม่สมดุลย์ของฮอร์โมนเพศหญิงและชาย เช่น ผมร่วงจากการกินยาคุมกำเนิด
- ผมร่วงทั่วศีรษะ พบร่วมกับอาการทางกายอื่นๆ เช่น ภาวะซีด ปวดเมื่อยตามข้อและกระดูก มีความดันโลหิตสูง มีอาการท้องมาน เหลือง(ดีซ่าน) ตับม้ามโต หรือในปัสสาวะมีโปรตีนไข่ขาวออกมามากกว่าปกติ ในผู้หญิง ปัญหาผมร่วงที่พบในโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE - Systemic Lupus Erythematosus) ยังคงพบได้บ่อยเช่นกัน
การรักษาได้ผลมากน้อยเพียงใด
จากการสำรวจผู้ป่วยชาย 100 ราย ช่วงอายุ 24-55 ปี ของไทยแฮร์เซนเตอร์ ( ช่วงเวลา กันยายน 2551- เมษายน 2552 )
พบว่าอัตราความพึงพอใจของการรักษาจะมากในผู้ที่อายุน้อย
- อายุ 24-30 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 85 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 95% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ 31-40 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 75 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 87% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ 41-50 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 65 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
- อายุ มากกว่า 50 ปี อัตราความพึงพอใจประมาณ 62 % หลังการรักษา 3 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นถึง 72% เมื่อรักษาครบ 6 เดือน
ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการรักษา
วิธีการรักษาของไทยแฮร์เซ็นเตอร์เป็นวิธีการรักษาแบบ ผสมผสาน โดยใช้วิธีมาตรฐานผสมผสานกับแนวทางการรักษาที่ได้ผลตามหลักการพื้นฐานของนา โนเทคโนโลยี คือการเพิ่มออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมให้กับ รากผม วิธีการนี้เป็นวิธีการใหม่เป็นหนทางแก้ผมร่วง ลดอุบัติการณ์ของผมบางมากๆในคนที่มียีนศีรษะล้านอยู่ในตัว โดยในต่างประเทศแนวทางการรักษาวิธีนี้ได้ผลเป็นที่พึงพอใจมากและความปลอดภัย ก็สูงมากเช่นกัน
สูตรยารักษาผมร่วง ลดปัญหาผมบาง ของไทยแฮร์ฯ ประกอบด้วย
1.ยารับประทาน กินยาวันละ 3 เม็ด ครั้งเดียวพร้อมกัน มีทั้งยากระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ (ความเข้าใจของคนทั่วไปเรียก ยาปลูกผม), ยาเพิ่มความแข็งแรงให้รากผมเดิมทำให้ผมร่วงน้อยลง และยาที่เพิ่มสารอาหารที่สำคัญและออกซิเจนให้รากผมหรือวิตามินผม
2.แชมพูป้องกันผมร่วง สูตรของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ เป็นแชมพูยับยั้งฮอร์โมน DHT เฉพาะที่หนังศีรษะและกระตุ้นรากผมใหม่ มีทั้งสูตรแชมพูสำหรับผมมันและแชมพูแก้ผมร่วงสำหรับหนังศีรษะแห้ง ใช้ได้ 1 เดือน
3.ซีรั่มหยอดกระตุ้นรากผม สูตรของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ เป็นการเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น เพราะปัญหาของการรักษาอย่างหนึ่งคือเมื่อขนอ่อนขึ้นมาแล้วมักจะยาวได้ไม่มาก ก็จะหลุดร่วงไป โดยให้หยดยาเร่งผมยาวบริเวณที่ผมบางก่อนนอนวันละครั้ง ซีรั่มของไทยแฮร์ฯ นี้มีหลายสูตรให้เลือกใช้มาก โดยหมอจะเป็นผู้สั่งจ่ายให้ตามวิธีการรักษาเฉพาะของไทยแฮร์ฯ ในแต่ละคนจะได้ซีรั่มไม่เหมือนกันแล้วแต่สภาพปัญหาของหนังศีรษะที่พบร่วม เช่น มีสะเก็ดรังแค? ผิวหนังอักเสบคัน? ขณะมารักษามีผมร่วงมากอยู่หรือไม่? เป็นต้น กรณีที่มีการอักเสบของหนังศีรษะอย่างมาก หรือมีรังแคค่อนข้างมาก ทางไทยแฮร์ฯ ก็จะจ่ายแชมพูรักษาหนังศีรษะอักเสบ ขจัดรังแค ซึ่งเป็นแชมพูความเข้มข้นสูง ให้เสริมกับแชมพูหลักโดยที่ไม่ต้องใช้ซีรั่มหยอด เมื่อรังแคและหนังศีรษะอักเสบหายดีแล้วจึงกลับมาใช้ซีรั่มกระตุ้นรากผมให้ งอกเร็วและทำให้ผมร่วงน้อยลง
วิธีการรักษาทั้งหมดข้างต้นจะใช้ยาได้เป็นเวลา 1 เดือนด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด 940 บาทต่อเดือน
โดยทั่วไประยะเวลาการรักษาอย่างน้อย 6 เดือนจึงจะได้ผลเป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา
(ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นอย่างอื่นนอกเหนือจากค่ายารักษา ค่าตรวจของแพทย์หรือค่าวิเคราะห์เส้นผมไม่เสีย โดยแพทย์ตรวจวิเคราะห์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น)
จะต้องกินยารักษาผมร่วงไปตลอดชีวิตหรือไม่ (ผมร่วงที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และไม่ใช่จากกรรมพันธุ์)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่กังวลมาก การจะต้องกินยารักษาผมร่วงไปตลอดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการผม ร่วงผมบาง เช่น ถ้าเป็นจากโรคผิวหนังที่สามารถรักษาหายขาดได้ ก็ไม่จำเป็นต้องกินยาไปตลอด หรือเป็นจากภาวะขาดสารอาหารและวิตามิน หรือโลหิตจาง เมื่อให้ยาทดแทนสิ่งที่ร่างกายขาด จนเส้นผมขึ้นมาปกติและอาการร่วงของเส้นผมอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็สามารถหยุดยา ได้ แต่กลุ่มใหญ่ที่มารักษา ที่เป็นผู้ชายและแพทย์ลงความเห็นแล้วว่าเป็นผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ กลุ่มนี้ ผู้ที่จะทำการรักษา ต้องยอมรับก่อนว่า ผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์รักษาให้หายขาดไม่ได้ การใช้ยารักษาเป็นการประคองให้ผมคงสภาพอยู่ในลักษณะเส้นใหญ่ขึ้น ความหนาแน่นของเส้นผมมากขึ้น และรากผมไม่ฝ่อไปแบบถาวร เพราะฉะนั้น ก่อนจะทำการรักษาต้องยอมรับก่อนว่า จำเป็นจะต้องใช้ยารักษาผมร่วงผมบางไปตลอด ถ้าวิตกเรื่องบุคลิกภาพ เพื่อคงสภาพเส้นผมให้อยู่บนหนังศีรษะได้นานๆ เมื่อหยุดยาเส้นผมก็จะเริ่มกลายสภาพไปตามกำหนดของกรรมพันธุ์ ส่วนศีรษะจะล้านเร็วหรือล้านช้ายังมีปัจจัยอื่นเข้ามากำหนด เช่น สภาวะโภชนาการของแต่ละคน, ภาวะพร่องวิตามินของแต่ละคน, อุปนิสัยการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะของแต่ละคน, ความเครียด, ความวิตกกังวลเป็นนิจ, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, อายุที่มากขึ้นมีการเสื่อมของเซลล์รากผมร่วม ต่างๆเหล่านี้เป็นตัวเร่งเร้าให้ภาวะผมร่วง ผมบาง จนศีรษะล้านในแต่ละคนไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามแม้นว่า ผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ จำเป็นต้องใช้ยากินไปตลอด แต่ก็ยังมีเทคนิคในการปรับลดขนาดของยากิน ซึ่งแพทย์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ใช้อยู่ มีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้
* ความเป็นจริงของคนที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์เวลามารักษามัก จะมีสาเหตุอื่นๆผสมอยู่ด้วย ทำให้อาการผมร่วงผมบางมีมากกว่าความเป็นจริงไป ที่พบร่วมบ่อยคือ ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ต่อมไขมันอักเสบเรื้อรังที่หนังศีรษะ แพ้สารเคมีกลุ่ม น้ำยาย้อมผม น้ำยาโกรกผม น้ำยายืดผม หรือ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม อาทิ แว็กซ์ เจล สเปรย์ เพราะฉะนั้นเวลาจ่ายยารักษา จึงมักจะรักษาภาวะผิดปกติที่พบร่วมไปเลยในคราวเดียว และแนะนำให้ผู้ป่วยหยุดใช้สารเคมีกับหนังศีรษะแบบสิ้นเชิง ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
* การให้ยาในเดือนที่ 4 เป็นเต้นไป แพทย์จะปรับยาเสริมกลุ่มวิตามินสำหรับเส้นผมเสริมเข้าไปในแต่ละคน ซึ่งจะได้ต่างกัน แล้วแต่แพทย์ประเมินว่าขาดวิตามินตัวไหน
* การให้ยาในเดือนที่ 9 เป็นต้นไป จะเริ่มให้ยาที่ช่วยทำให้เส้นผมใหญ่ขึ้น เพิ่มสารอาหารและออกซิเจนให้รากผม
* โดยเฉลี่ยการรักษาเมื่อครบประมาณ 15 เดือนแพทย์จะเริ่มปรับยาลดลงเป็น วันเว้นวัน หรือ วันเว้นสองวัน แล้วดูว่ายังสามารถคงสภาพเส้นผมได้อยู่หรือไม่ ผมกลับมาร่วงและบางลงอีกหรือไม่
การใช้เทคนิคปรับลดขนาดยาข้างต้น เพื่อให้สามารถคงสภาพเส้นผมได้ แพทย์จะเป็นผู้ปรับเมื่อครบ 15 เดือน หรือในบางรายมีการตอบสนองต่อยารักษาดีมาก ก่อนจะครบ 15 เดือน ผมขึ้นมาดกมาก และมีขนาดเส้นใหญ่มาก ความหนาแน่นของเส้นผมมีมากเป็นที่พึงพอใจของผู้ป่วยแล้ว แพทย์ก็จะปรับลดยาลงทันที นโยบายของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ไม่มีนโยบายที่จะให้ผู้เข้ารับการรักษากินยาไปตลอด แต่จะเสริมความเข้าใจเรื่องหลักโภชนาการที่ดีสำหรับเส้นผม พร้อมแนะนำวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ ซึ่งจะช่วยยืดอายุของเส้นผมให้นานที่สุด ก่อนจะกลับมามีผมร่วงและผมบางอีกครั้ง และจะทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้ารับการรักษาว่า ภาวะผมร่วงผมบางจาก กรรมพันธุ์ทำให้หายขาดถาวรไม่ได้ เป้าหมายที่รักษาคือ ทำให้ดูดีขึ้น แล้วประคองไว้ให้นานที่สุด ภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ไม่มีอันตรายใดๆ ไม่รักษาก็ได้ หากไม่วิตกเรื่องบุคลิกภาพ หากจะทำการรักษาต้องยอมรับ ความเป็นจริงเรื่องการใช้ยารักษาไปตลอด หรือใช้ยาไปเป็นช่วงๆที่มีปัญหาพร้อมเสริมโภชนาการที่ดีไปพร้อมกัน
การใช้ยากินรักษาผมร่วงไปนานๆจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ จะเป็นอันตรายต่อ ตับไตหรือไม่
จากประสบการณ์ของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีผลข้างเคียงอันตรายรุนแรงใดๆเลย มีแต่ผลข้างเคียงเล็กๆน้อย เหมือนกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับการกินยาทั่วๆไป เช่น อาการคันตามตัว, อาการบวมที่เท้าและเปลือกตา, อาการปวดตึงที่หนังศีรษะ ซึ่งอาการข้างเคียงจากยาที่กล่าวมาส่วนใหญ่หายไปเองไม่จำเป็นต้องหยุดยาและ เกือบทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อใช้ยาภายใน 3-5 วันแรก
อย่างไรก็ตามยาทุกชนิด ไม่ว่าจะใช้รักษาอะไร ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้ แต่เท่าที่มีข้อมูลทางวิชาการ ของยาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ใช้อยู่ ยังไม่เคยมีผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆในระยะยาว หากใช้ยาภายใต้การควบคุมและปรับเปลี่ยนยาเมื่อมีผลข้างเคียงที่ไม่พึง ประสงค์เกิดขึ้นและจะต้องกินยาในปริมาณที่กำหนด ไม่กินมากกว่าที่กำหนด จากประสบการณ์ของไทยแฮร์ฯ เองมีคนไข้บางคนที่ใช้ยามาสักระยะแล้วไปตรวจสุขภาพ มาพบว่ามีการทำงานของเอ็นไซม์ตับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะจากสาเหตุใดๆก็ตาม เช่น ระหว่างกินยาแล้วเกิดมีอาการไวรัสตับอักเสบร่วมโดยบังเอิญหรือเกิดมีอาการ ตับอักเสบจากการดื่มสุรา ในกลุ่มนี้เราก็แนะนำให้หยุดยาทันทีและเมื่อติดตามผู้ป่วยไปสักระยะ 3-4 เดือน ก็จะพบว่า การทำงานของเอ็นไซม์ตับก็กลับมาเป็นปกติ ซึ่งการที่มีเอ็นไซม์การทำงานของตับเพิ่มสูงขึ้นก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าเกิดจากยารักษาผมร่วงหรือไม่ เพราะแม้แต่ยาที่ปลอดภัยมากๆ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) ซึ่งใช้เป็นยาแก้ปวดลดไข้ หากกินในปริมาณที่มากๆ พร้อมกันหรือกินต่อเนื่องกันหลายวัน ก็ยังพบว่าทำให้มีเอ็นไซม์ตับเพิ่มขึ้นได้อย่างมากๆ เช่นกัน
มีผู้กล่าวไว้ว่าภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ถึงแม้จะไม่ใช่โรคทางกายแต่ก็ สร้างบาดแผลทางใจให้ผู้ที่เป็นอยู่มากทีเดียว ผู้ที่เป็นจะมีความกังวล รู้สึกไม่มั่นใจตัวเอง จนบางคนมีปัญหาด้านสภาวะจิตใจอย่างรุนแรง ถ้าเปรียบเทียบกับโรคทางกาย เช่นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ที่จะต้องใช้ยากินรักษาไปตลอดชีวิต ก็นับว่าภาวะผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ก็น่าจะจัดอยู่ว่าเป็นภาวะที่สร้างให้ เกิดโรคทางจิตใจ การจะใช้ยาไปตลอดก็นับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง
สรุปได้ว่าปัจจุบันยาที่ใช้รักษาผมร่วง หากกินในปริมาณที่กำหนดแล้วนับว่ามีความปลอดภัยสูงในระยะยาว แต่การจะกินยาต่อเนื่องเกินกว่า 2 ปี ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ไม่แนะนำ เหตุผลที่ไม่แนะนำให้กินยาต่อเนื่องเกิน 2 ปี เนื่องจาก เส้นผมคนเราโดยเฉลี่ยจะมีอายุประมาณ 2 ปี ถ้าใช้ยามาประมาณ 2 ปีแล้ว เราคิดว่ารากผมที่ขึ้นใหม่เกือบทั้งหมดบนหนังศีรษะได้รับการควบคุมไม่ให้ถูก ทำลายจากอิทธิผลของฮอร์โมน DHT เรียบร้อยแล้ว ผมจะเส้นใหญ่ดีแล้ว ก็ควรจะหยุดยาได้ เมื่อเส้นผมเริ่มเล็กลงในอนาคตจึงค่อยเริ่มกลับมากินยาใหม่ ถึงแม้ว่าการรักษาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์จะต้องใช้ยาตลอดเพื่อคงสภาพเส้น ผมให้เส้นใหญ่และมีความหนาแน่นใกล้เคียงปกติ หากหยุดยาในขณะที่เส้นผมยังมีเส้นไม่ใหญ่พอ การกลับมามีผมร่วง ผมบางอีกครั้งจะเร็วใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน หลังหยุดยา แต่หากใช้ยาไปจนเส้นผมมีขนาดใหญ่และความหนาแน่นเป็นที่พอใจแล้ว ค่อยๆปรับลดยาลง พร้อมกับเสริมโภชนาการและวิตามินที่สำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้น ผมไปพร้อมๆกัน จะสามารถยืดเวลาที่จะกลับมามีผมร่วงได้นาน บางคนได้ถึงปีครึ่ง หลังจากหยุดยากินแบบสิ้นเชิง
ในบางคนที่มีความกังวลเรื่องผลข้างเคียงของยาก็จะใช้วิธีกินยาเป็นช่วงๆ สลับกับการเสริมโภชนาการและวิตามิน เช่น กินยา 5-6 เดือน พอผมกลับมาดูดีมีความหนาแน่นของผมเป็นที่พอใจแล้วก็หยุดยา หันกลับมาเสริมวิตามินและโภชนาการดีๆ การทำแบบนี้เพื่อความสบายใจและลดการสัมผัสยาเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ ซึ่งก็นับว่าได้ผลดี ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์จะต้อง ทำใจยอมรับล่วงหน้าก่อนเลยว่าวงจรของอาการผมร่วงมันเป็นเช่นนี้ เพราะกรรมพันธุ์หรือยีนในร่างกายมันเป็นตัวกำหนดเราจะเอาชนะมันแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดไม่ได้ ได้เพียงแต่ประคองด้วยการกินยาและหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆที่จะทำให้ผมร่วงมาก ขึ้น โดยเฉพาะสารเคมีที่ใช้กับหนังศีรษะและเส้นผม
ถ้ากินยารักษาผมร่วงแล้วหยุดยาก่อนจะทำให้หัวล้านเร็วกว่าปกติหรือไม่
เรื่องนี้ยังเป็นที่เข้าใจผิดกันมากและบอกปากต่อปากกันมาจนฟังดูแล้วเหมือนกับว่าการกินยารักษาผมร่วงจะทำให้หัวล้านเร็วกว่าปกติ
ความเข้าใจผิด : การหยุดยาจะไปเร่งให้ศีรษะล้านเร็วหรือมีผมร่วงมากกว่าปกติ
ความจริง : ความเป็นจริงก็คือยารักษาผมร่วงไม่ได้ไปเร่งให้ศีรษะล้านเร็วกว่าปกติหรือผมร่วงมากกว่าปกติเมื่อหยุดกินยา
การร่วงของผมหรือศีรษะจะล้านเร็วหรือช้าขึ้นกับปัจจัยอื่นอย่างที่กล่าวมา ข้างต้น ยารักษาผมร่วงจะช่วยคงสภาพให้เส้นผมใหญ่และผมร่วงน้อยลงตราบเท่าที่ยังกินยา รักษาอยู่ (กรณีที่สาเหตุของผมร่วงผมบางมาจากกรรมพันธุ์) เมื่อหยุดกินยาทุกอย่างจะค่อยๆ กลับสู่สภาวะความเป็นจริงของคนคนนั้นแต่จะค่อยเป็นค่อยไป ถ้ากินยารักษามาจนเส้นผมใหญ่ดีแล้วการกลับสู่สภาวะของความเป็นจริงจะช้า นั่นคือยืดเวลาที่จะมีผมบาง ศีรษะล้านออกไปได้นานกว่าการกินยาไปเพียง 4-5 เดือนแล้วหยุดยาทันที เมื่อหยุดยาความหนาแน่นของเส้นผมจะกลับสู่ความเป็นจริงที่ควรจะเป็นเหมือน กับขณะที่ไม่ได้กินยา
ตัดสินใจจะรับการรักษาด้วยยาจะทำอย่างไร ( แผนที่ไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
หากตัดสินใจจะเข้ารับการรักษาโปรดโทรจองคิวก่อนล่วงหน้า โดยสามารถจองคิวล่วงหน้าได้ ก่อนอย่างน้อย 1 วัน ไม่รับจองคิวล่วงหน้าเกินกว่า 1 วันทำการ สามารถจองคิวตรวจได้ที่เบอร์โทร02-4460875 (ช่วงเวลา 11.00 - 18.00 น.) หรือ โทรสอบถามรายละเอียดที่ 085-8095990 พร้อมกับสอบถามเส้นทางมายังคลีนิก ดูรายละเอียดการนัดแพทย์ หากท่านไม่มั่นใจว่าการรักษาภาวะผมบางของท่านจะได้ผลมากน้อยเพียงใดท่าน สามารถจองคิวเพื่อมาปรึกษาแพทย์ก่อนได้ หากแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าการรักษาของท่านผลการรักษาจะได้ผลน้อย แพทย์จะแจ้งให้ท่านทราบ หากไม่มีการจ่ายยารักษาผมร่วงใดๆ ท่านก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย
หากแพทย์วิเคราะห์และแจ้งให้ท่านทราบแล้วว่าผลการรักษาน่าจะเป็นที่พึงพอใจ แพทย์ก็จะจ่ายยาให้ท่านพร้อมแชมพูป้องกันและลดผมร่วง และซีรั่มเร่งผมยาว โดยท่านเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรับยาไปกี่เดือน โดยทั่วไปการใช้ยารักษาผมบาง ต่อเนื่องประมาณ 3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผลว่า ผมหนาและผมดกขึ้น โดยท่านจะเสียค่าใช้จ่ายตามปริมาณยาที่รับไป ในอัตรา 940 บาทต่อเดือน โดยแพทย์จะใช้เวลาในการตรวจผู้ป่วย 1 ราย ประมาณ 10-15 นาที
อยู่ต่างจังหวัดจะมารับการรักษาได้อย่างไร ( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
การรักษาของไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ไม่มีการส่ง ยาปลูกผม แชมพูปลูกผม หรือซีรั่มปลูกผมทางไปรษณีย์ ผู้ที่จะมารับการรักษาทุกรายต้องเดินทางมาที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ ด้วยตัวเองเพื่อทำทะเบียนประวัติ - พบแพทย์ - รับยา ตามหลักมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพเวชกรรมทุกประการ หากท่านมาจากต่างจังหวัดท่านไม่ได้มีโอกาสเข้ามากรุงเทพฯได้บ่อยๆ แพทย์สามารถจะจ่ายยาให้ท่านได้ 3 - 5 เดือน หลังจากนั้นเมื่อยาหมดท่านควรมาพบแพทย์เพื่อดูผลการรักษาและรับยารักษาผม ร่วงเพิ่มต่อไป
* หมายเหตุ : การใช้ยาปลูกผมและแชมพูแก้ผมร่วงจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้คำแนะนำ ส่วนปัญหาหรือข้อข้องใจเกี่ยวกับการใช้ยาปลูกผมต่อเนื่องระยะยาวแพทย์จะชี้ แจงขณะวิเคราะห์ตรวจโรค หรือหากท่านสงสัยประการใดแพทย์ยินดีให้คำแนะนำ
* หมายเหตุ : เส้นทางมายังคลินิก ตั้งอยู่ที่ 27/298-300 หมู่ที่ 5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ติดโลตัสวัดจันทร์ ใกล้ ร.พ.ยันฮี, ใกล้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต พระราม 7 เขตบางกรวย, ซอยข้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต บางกรวย นนทบุรี 11130 คลินิกติดกับโลตัสวัดจันทร์ ( ดูแผนที่ - ดู Google Map ) เบอร์โทร 02-4460875
เวลาเปิดทำการ ( แผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
จ. - ศ. 11.00 น. - 18.00 น.
ส. 10.00 น. - 18.00 น.
อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - หยุดทำการ
โปรดโทรจองคิวตรวจล่วงหน้ากับหมอรักษาผมร่วง 02-4460875 หรือ 085-8095990
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ รักษาผมร่วง แก้ปัญหาผมร่วง แก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ปลูกผม
ด้วย ยาปลูกผม + แชมพูรักษาผมร่วง + โลชั่นเร่งสร้างรากผม
เพื่อผมใหม่ที่ขึ้นดกหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดือนละ 940 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นอย่างอื่นใด
ปรึกษาปัญหาผมร่วง การรักษาผมร่วง ผมบางและแนวทางวิธีการฟื้นฟูรากผม
ให้คำปรึกษาเชิงวิชาการ ฟรี โทร 085-8095990 (เวลา 11.00 - 18.00 น.)
จองคิวการตรวจกับหมอที่รักษา โทร 02-4460875 (เวลา 11.00 - 18.00 น.)
( ดูแผนที่เส้นทางไป ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ )
สถานที่ตั้ง ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ Thai Hair Center Clinic ศูนย์ดูแลแก้ปัญหาผมร่วงผมบางอย่างมืออาชีพ
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์ Thai Hair Center Clinic
27/298-300 หมู่ที่ 5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ติดโลตัสวัดจันทร์ ใกล้ ร.พ.ยันฮี
ใกล้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต พระราม 7 เขตบางกรวย ซอยข้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
บางกรวย นนทบุรี 11130
โทร 02-446 0875
วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ฟันแท้หลุดอย่าเพิ่งทิ้ง เก็บถูกวิธีมีโอกาสใส่คืนได้
ความซุกซนของเด็กๆ บางครั้งนำมาซึ่งอุบัติเหตุที่อาจทำให้ฟันแท้หลุดได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ฟันแท้หลุด ผู้ปกครอง คุณครู หรือเพื่อนนักเรียน ที่พบเห็นมักเกิดอาการตกใจรีบสำรวจภายในช่องปาก และไม่สนใจตัวฟันที่หลุดออกไป
บทความนี้มีวิธีช่วยเหลือเบื้องต้นที่ถูกต้อง เมื่อพบเห็นเด็กฟันแท้หลุด ว่าควรทำอย่างไรดีก่อนพาเด็กมาพบทันตแพทย์
สิ่งแรกควรสำรวจก่อนว่าเด็กได้รับบาดเจ็บที่ไหนบ้าง ถ้าพบว่าฟันแท้หลุดหายไป สิ่งที่ควรทำต่อไป คือ
1. รีบหาฟันให้เจอ
2. ถ้าเจอฟันแล้วเวลาจับฟันขึ้นมา ให้จับตรงตัวฟัน ไม่ควรจับบริเวณรากฟัน
3. ล้างด้วยน้ำสะอาดที่ไหลเบาๆ เพื่อเอาเศษสิ่งสกปรกออกจากฟัน ห้ามขัดถูฟันหรือใช้น้ำยาเคมี เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจานทำความสะอาดฟันเด็ดขาด
4. ตรวจสอบว่ารากฟันหักหรือไม่ ถ้ารากฟันไม่หักให้รีบใส่ฟันกลับเข้าที่ให้ถูกต้อง (ถ้าสามารถทำได้) แล้วรีบพาเด็กไปพบทันตแพทย์ทันที
กรณีใส่ฟันกลับเข้าที่ไม่ได้ ให้นำฟันไปแช่ในน้ำนม แนะนำให้ใช้นมรสจืด ไม่ว่าจะเป็นนมพลาสเจอร์ไรซ์, UHT, Whole fat, Low fat ได้ทั้งหมด เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า นมรสจืดช่วยรักษาเซลล์ที่อยู่รอบรากฟันให้ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ดีกว่าน้ำชนิด อื่นๆ หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ จะแช่ฟันที่หลุดในน้ำเกลือล้างแผล น้ำดื่ม น้ำก๊อก หรือให้เอาผ้าห่อฟันแล้วอมไว้ในปากให้เปียกน้ำลายอยู่ตลอดก็ได้ ที่สำคัญคือ อย่าปล่อยให้ฟันแห้ง เพราะเซลล์ที่อยู่รอบฟันจะขาดน้ำ ทำให้ความสำเร็จในการนำฟันที่หลุดกลับเข้าที่มีโอกาสน้อยลง จากนั้นไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อทันตแพทย์จะได้นำฟันกลับเข้าที่ และยึดฟันที่หลุดไว้ เพราะยิ่งนำฟันที่หลุดกลับเข้าที่ได้เร็วมากแค่ไหน ความสำเร็จในการรักษาก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดเพื่อทำการรักษาคลองรากฟัน และติดตามผลการรักษาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
อุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ หรือหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว หากรู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็จะทำให้อุบัติเหตุนั้นคลี่คลายด้วยดีที่สุดได้
ศูนย์ทันตกรรมเดนทัลลิส โรงพยาบาลเวชธานี
www.vejthani.com
บทความนี้มีวิธีช่วยเหลือเบื้องต้นที่ถูกต้อง เมื่อพบเห็นเด็กฟันแท้หลุด ว่าควรทำอย่างไรดีก่อนพาเด็กมาพบทันตแพทย์
สิ่งแรกควรสำรวจก่อนว่าเด็กได้รับบาดเจ็บที่ไหนบ้าง ถ้าพบว่าฟันแท้หลุดหายไป สิ่งที่ควรทำต่อไป คือ
1. รีบหาฟันให้เจอ
2. ถ้าเจอฟันแล้วเวลาจับฟันขึ้นมา ให้จับตรงตัวฟัน ไม่ควรจับบริเวณรากฟัน
3. ล้างด้วยน้ำสะอาดที่ไหลเบาๆ เพื่อเอาเศษสิ่งสกปรกออกจากฟัน ห้ามขัดถูฟันหรือใช้น้ำยาเคมี เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจานทำความสะอาดฟันเด็ดขาด
4. ตรวจสอบว่ารากฟันหักหรือไม่ ถ้ารากฟันไม่หักให้รีบใส่ฟันกลับเข้าที่ให้ถูกต้อง (ถ้าสามารถทำได้) แล้วรีบพาเด็กไปพบทันตแพทย์ทันที
กรณีใส่ฟันกลับเข้าที่ไม่ได้ ให้นำฟันไปแช่ในน้ำนม แนะนำให้ใช้นมรสจืด ไม่ว่าจะเป็นนมพลาสเจอร์ไรซ์, UHT, Whole fat, Low fat ได้ทั้งหมด เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า นมรสจืดช่วยรักษาเซลล์ที่อยู่รอบรากฟันให้ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ดีกว่าน้ำชนิด อื่นๆ หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ จะแช่ฟันที่หลุดในน้ำเกลือล้างแผล น้ำดื่ม น้ำก๊อก หรือให้เอาผ้าห่อฟันแล้วอมไว้ในปากให้เปียกน้ำลายอยู่ตลอดก็ได้ ที่สำคัญคือ อย่าปล่อยให้ฟันแห้ง เพราะเซลล์ที่อยู่รอบฟันจะขาดน้ำ ทำให้ความสำเร็จในการนำฟันที่หลุดกลับเข้าที่มีโอกาสน้อยลง จากนั้นไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อทันตแพทย์จะได้นำฟันกลับเข้าที่ และยึดฟันที่หลุดไว้ เพราะยิ่งนำฟันที่หลุดกลับเข้าที่ได้เร็วมากแค่ไหน ความสำเร็จในการรักษาก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดเพื่อทำการรักษาคลองรากฟัน และติดตามผลการรักษาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
อุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ หรือหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว หากรู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็จะทำให้อุบัติเหตุนั้นคลี่คลายด้วยดีที่สุดได้
ศูนย์ทันตกรรมเดนทัลลิส โรงพยาบาลเวชธานี
www.vejthani.com
วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554
Bride To Be: 8 กฎเหล็กการใช้ชีวิตคู่ โดยกูรูเลิฟ-หมอแอร์
Bride To Be: 8 กฎเหล็กการใช้ชีวิตคู่ โดยกูรูเลิฟ-หมอแอร์
|
By Lady Manager เพราะการแต่งงานมิใช่จุดจบ… หากแต่คือ การเริ่มต้นที่ ‘คนสองคน’ ต้องปรับเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ | ||||
“เรื่องการใช้ชีวิต แต่งงาน ถามว่าง่ายมั้ย ก็ไม่ง่ายนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เหมือนเพลงที่บอกว่า รักไม่ช่วยอะไร มันจริงนะ รักอย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีทั้งรัก ทั้งความเข้าใจ ทั้งการให้อภัยซึ่งกันและกัน ต้องรู้จักสื่อสาร รู้จักพูดคุยกัน” คุณหมอคนสวยเกริ่นนำ พร้อมเริ่มอธิบายถึงกฎเหล็ก 8 ข้อ ที่คู่สามีภรรยาควรปฏิบัติ เพื่อชีวิตหลังแต่งงานที่ราบรื่น สวีทหวานไม่มีเปลี่ยน... กฎเหล็ก1 : ทำใจยอมรับ ในความแตกต่าง แพทย์สาวจากโรงพยาบาลตำรวจ บอกว่า สิ่งสำคัญลำดับแรกที่คู่สามีภรรยาจำเป็นต้องทำคือ การยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน และนั่นคือ ปราการด่านแรก ที่บอกได้ว่าคุณทั้งสองจะอยู่ร่วมกันไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ “การแต่งงานคือ เรื่องที่คนสองคน ซึ่งมีความแตกต่างกัน แล้วต้องมาอยู่ด้วยกัน คนเราเมื่อคบกันใหม่ๆ จะคบกันที่ความเหมือน ประมาณว่าเราชอบอะไรๆ เหมือนกันเลย ดูหนังเกาหลีเหมือนกัน ชอบดารา ชอบเพลงแนวนี้เหมือนกัน คนสองคนก็จะชอบกัน แต่พออยู่กันไปจริงๆ คบกันไปลึกๆ มันไม่มีใครหรอกที่จะเหมือนเรา 100% ขนาดพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ยังนิสัยต่างกันเลย แล้วยิ่งมาจากคนละพ่อ คนละแม่ เลี้ยงดูมาต่างกัน มันก็ต้องมีความแตกต่างอยู่แล้ว ซึ่งหากคู่ไหนยอมรับความต่างเหล่านี้ไม่ได้ ก็จะเริ่มมีปัญหา เพราะคนเราพอแต่งงานกัน มันต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน ยิ่งอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเห็นความแตกต่างของอีกฝ่ายมากเท่านั้น” กฎเหล็ก2 : เลิกคาดหวังให้คู่รัก เป็นได้อย่างใจคุณ คุณหมอแอร์เล่าว่า มีหลายคู่เชียวค่ะที่หลังแต่งงาน มักคาดหวังให้คู่ของตนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นดั่งใจที่ตัวเองต้องการ ซึ่งท้ายที่สุดก็นำมาซึ่งปัญหาความไม่เข้าใจกัน “หลายคนอยากให้แฟน เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ พูดง่ายๆ คือ อยากให้แฟนเหมือนตัวเอง หรือเป็นให้ได้อย่างใจที่ตัวเองต้องการ เมื่ออยู่กันไป เราก็จะเต็มไปด้วยความคาดหวัง ยิ่งเราคาดหวังมากเท่าไหร่ แล้วเขาไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง เราก็จะยิ่งเป็นทุกข์ แล้วพอผิดหวังซ้ำๆ บ่อยๆ เราก็จะเกิดอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว แล้วจะเริ่มไม่เหมือนเดิม จากเมื่อก่อนจะให้ทำอะไรก็ได้ แต่พออยู่ๆ กันไป จะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มไม่ยอมทำตามใจอีกฝ่ายมากขึ้น มันจึงเกิดปัญหา ยกตัวอย่างเช่น ตัวภรรยาเวลาจะไปสังสรรค์กับเพื่อน มักจะชวนแฟนไปด้วย อยากให้สามีไปด้วย แต่พอถึงคราวสามีอยากไปกินเหล้ากับเพื่อน ดันไม่อยากเอาภรรยาไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้หลายคนมาปรึกษาหมอบ่อยๆ มาน้อยใจบ่นว่า ‘ดูสิทีเรายังพาไปด้วยเลย ทีเขา ทำไมไม่ชวนเราไป ไม่อยากให้เราไป’ ซึ่งตรงนี้ถ้ามาถามหมอ หมอก็บอกเลยว่า เขาไม่ใช่คุณ เขาก็มีความชอบของเขาที่ไม่เหมือนกับเรา นี่แหละคือ สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความแตกต่างของกันและกัน ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นให้ได้ แล้วก็อย่าไปคาดหวังในตัวเขามากเกินไป” กฎเหล็ก3 : คบน้อย-คบนาน ต่างต้องปรับตัว | ||||
“แต่ละคู่ ไม่ว่าคบกันก่อนแต่งงานมานานแค่ไหน ก็ต้องปรับตัวทั้งนั้น เพราะอย่างที่บอก..คนสองคนไม่มีทางที่จะเหมือนกัน 100% แต่คู่ที่คบกันมานานแล้วค่อยแต่ง จะได้เปรียบ เพราะเขาเรียนรู้กันมาเยอะ เคยผ่านประสบการณ์ทะเลาะกัน ดีกัน แล้วกลับมาคืนดีกัน เหมือนมีชั่วโมงบินสูงกว่า ความผูกพันมากกว่า แต่อย่างกรณีคู่ที่เพิ่งคบกัน ปุ๊บปั๊บยังไม่ถึงปีแต่งงานเลย อันนั้นอาจจะยังไม่ทันรู้จักกันดี แบบนี้มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาสูง” อะฮ้า...เมื่อฟัง ประโยคข้างต้นแล้ว อย่าเพิ่งตกอก ตกใจไปใหญ่ค่ะ สำหรับคู่รักที่อาจจะคบกันมาไม่นานนัก ทว่าเมื่อคุณทั้งสองมั่นใจ แต่งงานกันแล้ว คุณหมอก็มีคำแนะนำมาให้ด้วย “สำหรับคู่ที่คบกัน มาไม่นาน อาจจะต้องปรับเยอะสักหน่อย เรื่องแรกคือ ต้องทำความเข้าใจกันให้มาก ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น แล้วพูดคุยกัน อะไรที่เราไม่ชอบ อะไรที่เรารับไม่ได้ก็ต้องบอกกัน แต่ก็ต้องบอกกันแบบนิ่มนวล บางทีมันเป็นเรื่อง ของความไม่เข้าใจกัน ซึ่งบางคนชอบคิดว่าเขาน่าจะรู้นะ ว่าเวลาฉันทำหน้าเป็นตูดหมึกอย่างนี้ เขาน่าจะเดาได้แล้วว่าฉันงอน ควรจะมาง้อ แต่ในความเป็นจริงหมอจะบอกว่า บางเรื่องเขาไม่รู้หรอก มันต้องคุยกัน และคุยกันดีๆ ไม่ใช่มาด่ากัน ตำหนิกัน เช่นขึ้นเสียงว่า ‘ทำไมทำอย่างนี้ฉันรับคุณไม่ได้’ แทนที่จะบอกว่า เรารู้สึกไม่สบายใจเลยที่เห็นเธอกลับบ้านดึก ปรับได้หรือเปล่า แต่อย่างไรเสีย คนที่คบกันมาน้อย แล้วแต่งงานก็มีข้อได้เปรียบอยู่เหมือนกัน ในเรื่องของความสด ความสวีทหวาน เพราะเพิ่งรักกันใหม่ๆ ความหวือหวาก็จะมีอยู่ ซึ่งทางที่ดีเราควรใช้ความหวือหวานี้ให้เป็นประโยชน์ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ ปรับความเข้าใจกันไป” กฎเหล็ก4 : เลิกเสพติด ความหวือหวา แพทย์สาวผู้เชี่ยวชาญด้าน จิตวิทยาแนะให้รู้จักกับอีกปัญหา ที่คู่แต่งงานมือใหม่มักพบเจอ นั่นคือการ ‘เสพติดความหวือหวา’ ที่พบบ่อยก็คือ การที่คุณสาวๆ มักคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งพิเศษ ในโอกาสสำคัญเสมอ (เหมือนสมัยจีบกันใหม่ๆ) ทว่าอารมณ์คุณผู้ชายหลายคนเชียวค่ะ ที่แม้จะรักแสนรัก แต่ก็ทำสิ่งพิเศษต่างๆ ได้เฉพาะช่วงโปรโมชัน (promotion) รักกันแรกๆ เท่านั้น “การที่คู่รักมีสิ่ง ดีๆ หรือสิ่งพิเศษให้กัน ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้งหากเวลาเปลี่ยนไปแล้วปรับตัวไม่ได้ บางคู่ก็อาจเกิดปัญหา เรื่องการเสพติดความหวือหวา ติดว่าวันวาเลนไทน์ต้องมีช่อดอกไม้โตๆ แพงๆ ซึ่งหลายคนโดยเฉพาะกับผู้ชาย เขาจะไม่ชอบความหวือหวาแบบนั้นเท่าไหร่ ถามว่าทำไมแต่ก่อนทำได้ ต้องอธิบายว่าช่วงโปรโมชันเขาทำได้ มันเป็นธรรมชาติของ ผู้ชาย ช่วงแรกจะจีบคนนี้ จะจีบให้ติดก็จะเป็นพ่อบุญทุ่ม ทำได้ทุกอย่าง แต่พอเป็นแฟนกันแล้ว ก็หมดโปรโมชัน แต่ถามว่ารักอยู่มั้ยก็ยังรักอยู่แหละ แต่บางทีคบกันมากๆ หลายปี มันก็จะเริ่มรู้สึกเปลือง รู้สึกว่าเอ๊ะ! ทำไปทำไม ก็รักอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้มันคือ ความแตกต่างกันระหว่างเรื่องเพศด้วยเหมือนกัน” กฎเหล็ก5 : เรียนรู้ “ภาษารัก” | ||||
“ผู้ชายจะไม่ค่อยพูด ว่าผมรักคุณ คือ ไม่ค่อยแสดงเป็นคำพูด แต่ผู้หญิงจะอยากฟัง บางคนอยากฟังทุกวัน ต้องให้แฟนบอกรักทุกวัน พอแฟนทำไม่ได้ก็เกิดปัญหาอีก ตรงนี้ความจริงแล้ว มันมีเรื่องของภาษารักอื่นๆ ที่เขาแสดงออกมาด้วย ซึ่งเราจะต้องอ่านภาษารักให้เป็น แปลให้ออก ไม่ใช่คิดว่าจะได้รับความรักต่อเมื่อ แฟนบอกว่า ฉันรักคุณ ผมรักคุณ อย่างนี้มันไม่ใช่ ภาษารักมีตั้ง หลายอย่าง ตั้งแต่ภาษาพูด พูดว่ารักนะ ชอบนะ ภาษากายคือ การแสดงออก การโอบกอด, สัมผัส, ลูบผม, จับผม, หวีผมให้, นวดให้ แม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นภาษารักอย่างหนึ่ง หรือจะให้เป็นสิ่งของ ให้ของขวัญ ให้แหวน บ้าน รถยนต์ แต่สิ่งของบางทีจะให้กันบ่อยๆ ก็ไม่ได้ ยิ่งอยู่กันนานให้บ่อยๆ ก็อาจสิ้นเปลือง ที่สำคัญคือ ให้บ่อยๆ ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่มีคุณค่า นานๆ ให้ทีจะดูมีค่ามากกว่า บางทีไม่จำเป็นต้อง ให้ของก็ได้ อาจจะให้เป็นเวลา คือ มีเวลาที่จะใช้ร่วมกัน เวลาที่จะอยู่ด้วยกัน ดูหนัง ดูทีวีด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ทำกับข้าวกินด้วยกัน หรือว่าการบริการ การดูแล เช่น สามีล้างรถให้ เช็ค (check) รถให้ การห่วงใยดูแล หรือการที่ภรรยาเตรียมอาหารเช้าให้ ปอกผลไม้ให้ พวกนี้มันเป็นภาษารักของเราทั้งนั้นเลย บางทีคู่รักหรือสามีภรรยา จะมองข้ามเรื่องพวกนี้ไป รอแต่ว่าเมื่อไหร่เขาจะบอกรักเรา เมื่อไหร่เขาจะซื้อเพชรให้ ซื้อเสื้อผ้าให้ เมื่อไหร่จะพาไปซื้อของ แต่ดันมองข้ามสิ่งดีๆ ที่ทำให้กันในทุกวันไป” กฎเหล็ก6 : ใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างมีคุณภาพ อีกสิ่งที่คุณหมอเธอฝากมาคือ แนะให้คู่สามีภรรยา ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีคุณค่า เพื่อเติมเต็มความสุขและความเข้าใจให้มาก “การใช้เวลาร่วมกัน หลายคนคิดว่า คือ การอยู่บ้านด้วยกันเฉยๆ ถ้าอยู่บ้านด้วยกัน แต่ต่างคนต่างอยู่ คนละมุมของห้องมันก็ไม่มีประโยชน์ เท่ากับมีเวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน เวลาที่มีคุณภาพคือ เวลาที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข เช่น กินข้าวด้วยกัน ดูทีวีด้วยกัน หัวเราะ พูดคุยด้วยกัน ซึ่งเวลาที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กันแบบนั้น มันคือ เวลาที่มีคุณภาพ ถึงแม้จะไม่มากแต่อยู่ด้วยกันแล้ว มันมีความสุข” กฎเหล็ก7 : สวีทหวาน 1 ปี ก่อนมีลูก | ||||
“ถ้าให้หมอแนะนำคือ ควรจะแต่งงาน แล้วใช้ชีวิตคู่แบบสามีภรรยาอย่างน้อยสัก 1 ปี แล้วค่อยมีลูก เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตคู่แบบจริงๆ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน สวีทกัน ไปเที่ยว ไปทำอะไรแบบสองคน เพราะพอมีลูกขึ้นมา ชีวิตคู่มันจะเปลี่ยนแล้ว มันจะไม่ได้มีแค่สองคน แต่จะมีลูกเข้ามาด้วย ทำให้คุณต้องเป็นทั้งสามีภรรยา และก็ต้องเป็นพ่อและแม่ด้วยในเวลาเดียวกัน สำหรับส่วนนี้ คนที่ได้ใช้ชีวิตคู่กันมาสองคน สวีทกันมาพักหนึ่ง จนรู้สึกว่ามันเริ่มเติมเต็มแล้ว ลูกก็จะมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ ทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ แต่หลายๆ คนพอแต่งปั๊บ มีลูกปุ๊บ เขาอาจจะรู้สึกเหมือนตั้งตัวไม่ทัน รู้สึกว่าชีวิตแต่งงานไม่มีความหวานเลย ไม่มีเวลาไปสวีทด้วยกันเลย เพราะพอมีลูกก็ต้อง ช่วยกันเลี้ยงลูก ต้องคอยวุ่นวายกับลูก ฉะนั้นที่หมอจะเตือนก็คือ อย่ามีลูกตอนที่ยังไม่พร้อม ต้องพร้อมก่อนค่อยมี ถ้าให้ดีอาจจะคบกันอย่างน้อยสักหนึ่งปี แล้วหลังแต่งงานก็อยู่กันสักหนึ่งปี ช่วงนั้นก็คุมกำเนิดไปก่อน พอพร้อมแล้วค่อยปล่อยให้มีลูก” กฎเหล็ก8 : เมื่อเกิดปัญหา หากจบไม่ได้ ให้เล็งหาจิตแพทย์เป็นตัวช่วย “ถ้าเมื่อใดที่คุณคิดว่า พยายามแก้ปัญหา พยายามปรับด้วยกันแล้วมันไม่ได้ผล หรือรู้สึกว่ายังไม่มีความสุขในชีวิตคู่ ก็สามารถมาปรึกษาจิตแพทย์ได้ หลายคนคิดว่าคนมาพบจิตแพทย์ต้องเป็นคนบ้าเท่านั้น จริงๆ มันไม่ใช่ แค่คุณมีปัญหาไม่สบายใจ คุณก็สามารถมาหาจิตแพทย์ได้ ปัจจุบันมีคู่รัก ที่มีปัญหาแล้วมาพบหมอเยอะเหมือนกัน บางคู่อาจมาทั้งสามีภรรยา แต่บางทีสามีไม่ยอมมา เราก็สามารถทำผ่านคนๆ เดียวก็ได้ เพราะคนเราอยู่ด้วยกัน ถ้าคนหนึ่งเปลี่ยนอีกคนก็เปลี่ยนตาม อย่างที่หมอรักษาคนไข้มา บางคู่สามีไม่ยอมมา มาแต่ภรรยา หมอก็คุยกับภรรยาว่าควรปรับวิธีคิดวิธีการปฏิบัติตัวอย่างไร พอภรรยาปรับ นิสัยแล้วสามีก็ดีขึ้น ครอบครัวเขาก็มีความสุขขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ภรรยาขี้บ่นจู้จี้ คาดหวังเยอะ แล้วก็คอยตามจิก สามีก็เกิดความอึดอัดรำคาญ จนเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน แล้วก็ยิ่งประชดประชันกัน แต่พอภรรยาเปลี่ยน รู้จักเอาใจมากขึ้น บ่นให้น้อยลง ไม่ระเบิดอารมณ์ใส่ ไม่ตามจิก คือ ทำให้บ้านมีความสุข สามีก็อยู่บ้านมากขึ้น ทุกอย่างก็ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นที่แนะนำคือ ถ้ามีปัญหาอาจจะคุยกันก่อน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็แนะให้มาหาคนกลาง ให้จิตแพทย์เป็นคนกลางก็ได้” จิตแพทย์อัญชุลีแนะนำ *ข้อคิดส่งท้าย หมั่นเติมรักไม่ให้ขาด | ||||
“การแต่งงานไม่ใช่ จุดจบ มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง ที่สำคัญ พอมีลูก ก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่อีก เริ่มต้นใหม่ไปเรื่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ สิ่งที่หมออยากแนะนำ ให้ทำก็คือ การหมั่นเติมความรักให้กันเสมอ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ก็คือ ให้คิดเหมือนกับตอนคบกันใหม่ๆ ตั้งแต่เป็นแฟนกัน มันเหมือนเราไปฝากเงินไว้ที่บัญชีธนาคาร เป็นบัญชีแห่งความรัก ที่ส่วนใหญ่ตอนจีบกันใหม่ๆ เราจะใส่เงินเข้าไปในบัญชีเยอะมากเลย ดอกกุหลาบเอย แหวนเพชรเอย คำรัก อัดภาษารักไปเต็มที่ มีเงินเยอะมากในแบงค์ แต่พอคบกันไปนานๆ หลังแต่งงาน ส่วนใหญ่จะเริ่มถอนออก ถอนออกด้วยการด่ากัน ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน กระแนะกระแหน ประชดประชัน ไม่พูดคุยกัน มึนตึง มันก็เหมือนการถอนเงินออก พอถอนออกไปเยอะๆ แล้วไม่ใส่กลับเข้าไป มันก็ติดลบ เพราะฉะนั้นชีวิตการแต่งงาน มันเหมือนการเพิ่งจะเริ่มต้นเอง ทั้งคู่ต้องหมั่นเติมความรักเสมอ เคยรักกันยังไง เข้าใจกันยังไง ก็ต้องรักกันต่อไป ไม่ใช่ว่า รักนะแต่ไม่แสดงออก มันต้องแสดงออกด้วย ต้องรู้จักใช้ภาษารักหลายๆ อย่าง แล้วก็ต้องอ่านภาษารักของอีกฝ่ายหนึ่งให้ออกด้วย เพื่อให้มีเงินในบัญชีสะสมไว้เยอะๆ และพอมีลูกขึ้นมา มันก็เหมือนเรามีบัญชีที่ 3 เพิ่มขึ้นมาเราก็ต้องใส่เงิน ใส่ความรักให้ทั่วถึงแต่ละบัญชี หลายคนพอมีลูก เลิกใส่บัญชีให้ภรรยาเลย ใส่ให้แต่ลูก รักลูก ซื้อของก็ให้แต่ลูก ซื้ออาหารให้แต่ลูก ลืมให้ภรรยา ตัวอย่างเช่น สามีกลับมาถึงบ้าน ซื้อข้าวซื้อขนมมาให้ลูก แต่ไม่ได้ซื้อมาเผื่อภรรยา ภรรยาก็งอนน้อยใจแต่ไม่พูด ก็เป็นปัญหา ซึ่งจริงๆ แล้วเราพูดได้ อาจพูดว่า ‘แล้วของฉันล่ะ ลืมฉันแล้วเหรอ’ อาจจะงอนนิดหน่อยแต่พองาม แล้วก็บอกว่ารอบหน้าห้ามลืมอีกนะ แค่นี้ก็จบ สามีก็จะรู้ว่า อืม..เราลืมไปจริงๆ เดี๋ยวรอบหน้าค่อยซื้อมาให้ใหม่ นี่แหละคือ สิ่งที่ต้องพูด เพราะถ้าไม่พูด ไม่สื่อสาร ผู้ชายเขาอาจจะไม่รู้ ข้อสำคัญที่สุด ต้องให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะมันไม่มีใครถูกตลอดหรอก อยู่ด้วยกันบางทีมันก็มีกระทบกระทั่ง เหมือนลิ้นกับฟัน บางทีเขาไม่ได้มีเจตนาทำให้โกรธหรอก แต่มันเป็นความไม่เข้าใจกันมากกว่า ก็ต้องให้อภัยกัน เพราะถ้าให้อภัยกันไม่ได้ ก็อยู่กันไปแบบมีความสุขไม่ได้หรอก” หมอแอร์-อัญชุลีกล่าวทิ้งท้าย | ||||
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)