วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

ที่มาที่ไปของ คำขวัญวันเด็ก


........เด็กเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง โดยปกติอายุของเด็กที่เข้าร่วมฉลองในงานนี้จะต่ำกว่า 14 ปี เพื่อเตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ เด็กควรจะมีความขยันหมั่นศึกษาหาความรู้ รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ มีระเบียบวินัย ขยันขันแข็ง ช่วยเหลือกันและกัน เสียสละรู้จักสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งรักษาความสะอาดและรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสาธารณสมบัติ .......
.... ..
ถ้าหากเด็กตระหนักถึงอนาคตของตนเองและของชาติโดยการปฏิบัติตนตามที่กล่าวมานั้น ก็จะได้ชื่อว่าเป็น "เด็กดี" และประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง
ในขณะเดียวกัน เพื่อกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ จึงได้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกในวันจันทร์แรกของเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2498 และถือปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2506 แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เพราะเป็นช่วงหมดฤดูฝนแล้วและเป็นวันหยุดราชการอีกด้วย ดังนั้นจึงถือปฏิบัติมาจนถึงวันนี้
คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ในปีต่าง ๆ
ความเป็นมา
ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจ
สำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา ได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาดังนี้
ปี พ.ศ.
ชื่อนายกรัฐมนตรี
คำขวัญของนายกรัฐมนตรี
2502
2503
2504
2505
2506
2507
2508
2509
2510
2511
2512
2513
2514
2515
2516
2517
2518
2519
2520
2521
2522
2523
2524
2525
2526
2527
2528
2529
2530
2531
2532
2533
2534
2535
2536
2537
2538
2539
2540
2541
2542
2543
2544
2545
2546
2547
2548
2549
2550
2551
2552
2553
2554
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
จอมพล ถนอม กิตติขจร
นายสัญญา ธรรมศักดิ์
นายสัญญา ธรรมศักดิ์
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย
นายบรรหาร ศิลปอาชา
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
นายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้าจงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพ เจ้าจงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
ขอให้เด็กไทยในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันมั่นเพียรมากที่สุด
(งดจัดงานวันเด็ก)
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนและเพียรทำดี
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะบากบั่นและสมานสามัคคี
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรง เรียนดี มีความประพฤตเรียบร้อย
ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัยมีความเฉลียวฉลาด และรักชาติยิ่ง
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
ยามเด็กจงมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
สามัคคีคือพลัง
เด็กคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจ ร่วมพลังสร้างความดี
เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรืองจะต้องทำตัวให้ดี มีวินัยเสียแต่บัดนี้
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
ขยัน อดทน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
มีวินัยใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
ขยัน ศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย และคุณธรรม
รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดี มีความคิด สุจริต ใจมั่น
สามัคคี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจซื่อสัตย์ ถือคุณธรรม
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคต ที่สดใส
เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน
เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ

จากเว็บไซต์ http://www.act.ac.th/act_baby/index.asp

ทิศหก

ทิศหก


ทิศหก บุคคลประเภทต่างๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ดุจทิศที่อยู่รอบตัวจัดเป็น ๖ ทิศ ดังนี้
๑. ปุรัตถิมทิส ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา
๒. ทักขิณทิสทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูอาจารย์
๓. ปัจฉิมทิส ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ สามีภรรยา
๔. อุตตรทิส ทิศเบื้องซ้ายได้แก่ มิตรสหาย
๕. อุปริมทิส ทิศเบื้องบนได้แก่ พระสงฆ์ สมณพราหมณ์
๖. เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง

๑. ปุรัตถิมทิส ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา : (หัวข้อ)
มารดาบิดาอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
บุตรธิดาพึงบำรุงมารดาบิดา ดังนี้
๑. ห้ามปรามจากความชั่ว
๒. ให้ตั้งอยู่ในความด
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร
๑. ท่านเลี้ยงเรามาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
๒. ช่วยทำกิจของท่าน
๓. ดำรงวงศ์สกุล
๔. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน

๒. ทักขิณทิสทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูอาจารย์ : (หัวข้อ)
ครูอาจารย์อนุเคราะห์ศิษย์ ดังนี้
ศิษย์พึงบำรุงครูอาจารย์ ดังนี้
๑. ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี
๒. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
๓. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
๔. ยกย่องให้ปรากฏในหมู่เพื่อน
๕. สร้างเครื่องคุ้มกันภัยในสารทิศคือ สอนให้ศิษย์ปฏิบัติได้จริง นำวิชาไปเลี้ยงชีพทำการงานได้
๑. ลุกต้อนรับแสดงความเคารพ
๒. เข้าไปหา
๓. ใฝ่ใจเรียน
๔. ปรนนิบัติ
๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ

๓. ปัจฉิมทิส ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ สามีภรรยา : (หัวข้อ)
สามีพึงบำรุงภรรยา ดังนี้
ภรรยาอนุเคราะห์สามี ดังนี้
๑. ยกย่องสมฐานะภรรยา
๒. ไม่ดูหมิ่น
๓. ไม่นอกใจ
๔. มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านให้
๕. หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญ ตามโอกาส
๑. จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
๒.สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
๓. ไม่นอกใจ
๔. รักษาสมบัติที่หามาได้
๕. ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง

๔. อุตตรทิส ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย : (หัวข้อ)
พึงบำรุงมิตรสหาย ดังนี้
มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
๑. เผื่อแผ่แบ่งปัน
๒. พูดจามีน้ำใจ
๓. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
๔. มีตนเสมอร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
๕. ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน
๑. เมื่อเพื่อนประมาทช่วยรักษาป้องกัน
๒. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
๓. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
๔. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร

๕. อุปริมทิส ทิศเบื้องบน ได้แก่ พระสงฆ์ สมณพราหมณ์ : (หัวข้อ)
คฤหัสถ์พึงบำรุงพระสงฆ์ ดังนี้
พระสงฆ์อนุเคราะห์คฤหัสถ์ ดังนี้
๑. จะทำสิ่งใดก็ทำด้วยเมตตา
๒. จะพูดสิ่งใดก็พูดด้วยเมตตา
๓. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
๔. ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
๕. อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย ๔
๑. ห้ามปรามจากความชั่ว
๒. ให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
๔. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
๕. ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง
๖. บอกทางสวรรค์ สอนวิธีดำเนินชีวิตให้ประสบความสุขความเจริญ

๖. เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง : (หัวข้อ)
นายจ้างพึงบำรุงลูกจ้าง ดังนี้
ลูกจ้างอนุเคราะห์นายจ้าง ดังนี้
๑. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ
๒. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ ความเป็นอยู่
๓. จัดสวัสดิการดีมีช่วยรักษาพยาบาลในยาม
เจ็บไข้ เป็นต้น
๔. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
๕. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส อันควร
๑. เริ่มทำงานก่อน
๒. เลิกงานทีหลัง
๓.เอาแต่ของที่นายให้
๔. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
๕. นำความดีของนายไปเผยแพร่










ทิศ 6


ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.learntripitaka.com/scruple/thit6.htm

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

มาเลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ..

งานวันเกิด ยิ่งใหญ่ ใครคนนั้น
ฉลองกัน ในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศ สรรเสริญ เพลินทะนง
วันเกิดส่ง ชีพสั้น เร่งวันตาย

อีกมุมหนึ่ง ซึ่งเหงา น่าเศร้าแท้
หญิงแก่แก่ นั่งหงอย และคอยหาย
โอ้วันนี้ ในวันนั้น อันตราย
แม่คลอดสาย โลหิต แทบปลิดชนม์

วันเกิดลูก เกือบคล้าย วันตายแม่
เจ็บท้องแท้ เท่าไร ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าคลอด รอดเป็นคน
เติบโตจน บัดนี้ นี่เพราะใคร

แม่เจ็บเจียน ขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิต แล้วก็เหลิง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา

ไฉนเรา เรียกกัน ว่าวันเกิด
วันผู้ให้ กำเนิด จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา
ให้มารดา คุณเป็นสุข จึงถูกแท้

เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดนะ
ควรแต่จะ คุกเข่า กราบเท้าแม่
รำลึกถึง พระคุณ อบอุ่นแด
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว

( อ.นภาลัย สุวรรณธาดา : ดอกไม้ใกล้หมอน )

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ซอฟต์แวร์ฟรีมีบ้างไหม

แยะเลย มีทั้ง Open Source Software และ Freeware ใส่ USB ได้อีกต่างหาก ลองตามไปดูที่

http://www.portablefreeware.com/

http://portableapps.com/

มีคนเจ็บคนป่วยทำไงล่ะ

ก็รักษากันไปตามอรรถภาพ ยาถูก หรือยาแพง ไม่ใช่ปัจจัยในการรักษาว่าจะหายหรือไม่หาย ท่านต้องรักษาทั้ง ร่างกาย และจิตใจ
  1. รักษาทางกาย ย้อนกลับไปอ่าน
    http://100q-1000a.blogspot.com/2010/10/blog-post.html
  2. รักษาทางจิตใจ
    ดนตรีบำบัด (Meditation Music)
    http://www.youtube.com/results?search_type=&search_query=meditation+music&aq=f

    มนตราบำบัด (Mantra)

    ดุริยมนตรา พระอาจารย์ ดร. สิงห์ทน นราสโภ
    http://audio.palungjit.com/showthread.php?t=2430
    ดุริยมนตรา สวดมนต์รักษาโรค ตอนที่ 1
    http://www.youtube.com/watch?v=R4Tcl48Frpc&feature=related

    ดุริยมนตรา สวดมนต์รักษาโรค ตอนที่ 2
    http://www.youtube.com/watch?v=olFCd-IZvF0&feature=related

    ดุริยมนตรา สวดมนต์รักษาโรค ตอนที่ 3
    http://www.youtube.com/watch?v=lLaoWMTES1w&feature=related
  3. แล้วถ้าเป็นมะเร็งล่ะ ทำไงดี
    ไปนี่เลย อย่าช้า
    • อาการหนัก หามไปวัดเลย (ไปรักษา ยังไม่เผา)
      http://www.khampramong.org/

    • ไปสถานพยาบาลปัญญาภัจจ์ นครนายก หา หมอเจน ( เจนธัช ขจรศิลป์ )
      210/7 หมู่ที่ 3 บ้านผลทวี ถนนสุวรรณศร ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000 โทร 037-32 6376-7 , 081- 987-7781
      http://www.thaitambon.com/tambon/tsmedesc.asp?ID=260113&SME=06111151643

      https://www.facebook.com/panyaphaj

    • ไปบ้านสุขภาพ ระยอง หา ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์
      http://www.siamhealthy.net/

    • ไปเข้าค่ายหมอหมอเขียว เยียวยาตัวเอง
      http://morkeaw.net/

    • ไปทำสมาธิเพื่อการผ่อนคลายรักษาสุขภาพกายและจิตโดยองค์รวมโดยพระอาจารย์มหาสีไพร อาภาธโร
      http://www.sripai.com/

    • NATARA CLINIC  (ณธราคลินิก)
      ศาสตร์แห่งธรรมชาติและเทคโนโลยี ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว
      เน้นการรักษาการแพทย์แผนไทยแบบองค์รวม ตรวจโรคด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ รักษาโดยใช้สมุนไพรไทย-จีน
      เปิดทำการเวลา 09.00 – 18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
      เลขที่ 88/298  หมู่บ้าน The Plant
      ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
      โทร. 08-5443-1557, 08-5443-2297, 08-1860-1651
      E-mail: natara.clinic@gmail.com
      Website: www.nataraclinic.com

อโรคยา ปรมา ลาภา. ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

อโรคยา ปรมา ลาภา. ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

ทำไงล่ะ นี่เลยง่ายๆ
  1. ตื่นนอน 04.00 น. เข้าห้องน้ำ
  2. ดื่มน้ำทันทีที่ตื่นนอน
  3. การออกกำลังกาย 05.30 น. – 06.00 น.
  4. ขับถ่ายอุจจาระ ก่อน 07.00 น.
  5. การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
    • อาหารเช้า 07.30 น.
    • กลางวัน 11.30 น.
    • เย็น ไม่เกิน 17.30 น.
  6. ดื่มน้ำทุก ๆ ชั่วโมง
  7. อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์
  8. อารมณ์ดี
  9. เข้านอน ก่อน 21.00 น.